จากกรณี “เสี่ยแป้ง นาโหนด” นายเชาวลิต อายุ 37 ปี นักโทษในหลายคดีดังของนครศรีธรรมราช และพัทลุง ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำนครศรีธรรมราช แต่ฟอร์มป่วยถูกนำตัว ส่ง รพ.มหาราช ถูกรักษาตัวบนชั้น 6 หอผู้ป่วยอายุรกรรม หลังสบโอกาสหลังเที่ยงคืนผู้คุมเผลอไขกุญแจหลบหนี เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.ของวันที่ 22 ตุลาคม ที่ผ่าน จนกลายเป็นข่าวที่ถูกให้ความสนใจอย่างกว้างขวาง โดยปรากฎภภาพวงจรปิดขณะที่นายเชาวลิต หรือแป้งหลบหนีออกจาก รพ.พร้อมด้วยลูกน้องอย่างลอยนวล
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อช่วงเช้าวันที่ 23 ต.ค.66 พล.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช พันตำรวจเอกนัษฐวุฒิ ทองทิพย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ได้เข้าทำการสอบปากคำ น.ส.วิลาวัลย์ (ขอสงวนนามสกุล) หรือไหม เป็นหญิงสาวที่รับจ้างเฝ้าไข้ และได้รับงานเฝ้าไข้นายเชาวลิต หรือเสี่ยแป้ง ปรากฏว่า น.ส.วิลาวัลย์ ได้ให้การเป็นประโยชน์อย่างมากโดยเฉพาะขั้นตอนการเข้าถึงตัวเสี่ยแป้ง ของลูกน้องเสี่ยแป้ง นำเอาอาวุธปืน กุญแจสำหรับไขโซ่ข้อเท้า การประสานงานการจ่ายเงินค่าแรงเฝ้าไข้ โดยมีผู้เกี่ยวข้ออีก 3 รายคือ นายจีรวุฒิ หรือปอย นายจักรี หรือบิ๊ก และนางยุวเรศ หรือหมวย มีการแบ่งหน้าที่กันทำ ส่วน น.ส.วิลาวัลย์ หรือไหม ผู้รับจ้างเฝ้าไข้ยืนยันว่า เสี่ยแป้ง นำโทรศัพท์มือถือของเธอไปใช้ และประสานงานให้มีการหลบหนี เสี่ยแป้ง ยังแจ้งด้วยว่า หากสำเร็จแล้วนั้นจะให้ค่าตอบแทนเป็นเงิน 2 แสนบาท และบ้านที่ภูเก็ตอีก 1 หลัง แต่ที่ได้จริงตอนนี้คือเงิน 2 พันบาทที่ นางยุวเรศ หรือหมวย โอนให้เพียง 2 พันบาทเท่านั้น
น.ส.วิลาวัลย์ ยังให้ข้อมูลสำคัญกับเจ้าหน้าที่ว่า เสี่ยแป้ง ได้ใช้คีมตัดเหล็กตัดกุญแจ โดยทำในผ้าห่มคืนวันที่ 20 แล้ว 1 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จวันรุ่งขึ้นได้แจ้งผู้คุมขอเปลี่ยนโซ่ปรากฎว่าผู้คุมได้นำโซ่มาเปลี่ยนให้ มีการพันธนาการแบบหลวมมาก จนกระทั่งตอนดึกคืนวันที่ 21 นายปอย ซึ่งได้มาเฝ้านายเชาวลิตอยู่ด้วยโดยอยู่ปะปนกับญาติคนอื่นๆแบบเนียนๆได้ลงไปรับกุญแจจากนายบิ๊กด้านล่างแล้วนำมาส่งให้หลังจากนั้นนายเชาวลิตได้ใช้ผ้าห่มคลุมทับไขจนสำเร็จแล้วไปเปลี่ยนผ้าเดินลงไปด้านล่าง แล้วหนีหายไปส่วนตนเองนั้นด้วยความตกใจยังอยู่ด้านบนจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ทราบเรื่อง
ขณะที่ พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รวบรวมพยานหลักฐานทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกำลังเสนอศาลเพื่อขอหมายจับบุคลที่เกี่ยบข้องกับการช่วยเหลือร่วมกันนำพาเสี่ยแป้ง หลบหนีประมาณ 3-4 ราย โดยอยู่ในระหว่างติดตามตัว ส่วนจะดำเนินการสอบสวนว่าเจ้าหน้าที่รัฐเอื้อหรือมีส่วนหรือไม่นั้นยังอยู่ในระหว่างการสอบสวน และเมื่อออกหมายจับแล้วจะส่งหมายไปยังท้องที่ใกล้เคียงที่บุคคลตามหมายจับอาศัยเพื่อติดตามจับกุมมาดำเนินคดี และแจ้งด้วยว่านายเชาวลิตหรือแป้งเป็นบุคคลอันตราย หากพบเห็นสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนพฤติการณ์หลบหนีในขณะนี้จากการติดตามกล้องวงจรปิดพบว่า มีผู้เกี่ยวข้องเบื้องต้นรวม 4 คนที่คอยช่วยเหลือนายเชาวลิตหลบหนี ใช้รถยนต์อย่างน้อย 2 คันคือกระบะมิตซูบิชิ สีขาว ทะเบียนจังหวัดพัทลุง ขณะนี้ทราบแล้วว่าเป็นรถของมารดาของหนึ่งในผู้ช่วยเหลือเสี่บแป้ง หลบหนี อีกคันเป็นรถอีซูซุสีขาว และยังมีเก๋งต้องสงสัยสีดำอีกคันซึ่งกำลังตรวจสอบความชัดเจนว่าเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ นอกจากนั้นยังมีการตั้งข้อสังเกตความหละหลวมของการควบคุมนักโทษรายนี้ ทั้งการเปลี่ยนกุญแจข้อเท้าได้อย่างง่ายดายเป็นการเอื้อต่อการหลบหนีหรือไม่ และยังพบด้วยว่าตลอดเวลาที่นอนอยู่ในหอผู้ป่วยนายเชาวลิต ได้รับปืนขนาด 9 มม.จากลูกน้องซ่อนติดตัวอยู่ตลอดเวลาด้วย
ส่วนประวัติทางคดีนอกจากคดีที่มีการตัดสินของศาลจังหวัดพัทลุงที่ถูกจำคุก 20 ปี 6 เดือน คดีนี้ เสี่ยแป้ง ร่วมกับพวกได้เข้าปล้นผู้ต้องหาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ขณะจับกุมคดียาเสพติด และยังมีคดีเกี่ยวกับความผิดต่อชีวิตชีวิตร่างกาย ความผิดต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรม เป็นยิงเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ ตามคดีอาญาดำที่ อ.175/2565 อยู่ระหว่างพิจารณาคดี นอกจากนั้นยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาอีกหลายคดี เช่นคดีสมคบค้ายาเสพติด คดีฟอกเงิน คดีร่วมกันฆ่า เช่นคดีการลอบฆ่านายอนันต์ คลังจันทร์ อดีตนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นอกจากนั้นยังพบข้อมูลอีกว่าเจ้าหน้าที่ ปปง.ได้เข้าอายัดทรัพย์สินของเสี่ยแป้ง ที่จ.สงขลา ที่นำเอาไปฝากไว้กับพี่สาวมูลค่าสูงถึง 150 ล้านบาท หลังจากมีการเตรียมเงินไว้เป็นทุนที่นายเชาวลิตกำลังเคลื่อนไหวลงสมัคร ส.อบจ.พัทลุง โดยระหว่างเคลื่อนไหวหาเสียงนายเชาวลิต หรือแป้ง ใช้รถเบ็นท์กันกระสุนเป็นพาหนะ แต่ต้องคดีร้ายแรงก่อนหลายคดีจึงต้องมาวิ่งเต้นคดีแทน ขณะเดียวกันแหล่งข่าวได้ให้ข้อมูลว่าการหลบหนของเสี่ยแป้ง หรือเชาวลิต ได้เตรียมการล่วงหน้าหลายวันแล้ว
#เสี่ยแป้ง #เสี่ยแป้งนาโหนด