"จุลพันธ์" โต้ "ก้าวไกล" ไม่ได้ลอกดิจิทัลวอลเล็ตจากญี่ปุ่น บริบทต่างกัน เทียบกันไม่ได้ ยันไม่ชัดเลื่อนแจกเงินหรือไม่
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.กล่าวถึงกรณีกรณีพรรคก้าวไกล ออกมาระบุต้นฉบับของนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต มาจากประเทศญี่ปุ่นว่า ยืนยันว่าต้นแบบไม่ได้มาจากประเทศญี่ปุ่น แต่ก็เคยดำเนินการในลักษณะคล้ายคลึงกัน เมื่อปี 1999 เป็นลักษณะของการแจกคูปอง แต่ส่วนตัวได้เห็นข่าวดังกล่าวแล้วและยังได้ติดต่อไปขอข้อมูลจาก นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ของประเทศญี่ปุ่นและไต้หวัน เพื่อนำมาศึกษาเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย เชื่อว่าทุกฝ่ายเข้าใจว่าบริบทแตกต่างกันในปี 1999 และในปีปัจจุบัน ประเทศไทยและญี่ปุ่น ขณะเดียวกันประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นมีความแตกต่างกันจึงไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้
ส่วนกรณีเลื่อนประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ทำให้ประชาชนสงสัยว่าได้รับเงินจากนโยบายนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 หรือไม่ นายจุลพันธ์ ระบุว่า เป้าหมายเป้าหมายยังคงอยู่ที่เดือนก.พ.67 แต่หากมีการประชุมคณะอนุกรรมการในสัปดาห์นี้จะมีความชัดเจนมากขึ้นก็เอาไปเลย แต่ถ้าไม่ทันจริงๆ ก็อาจจะอาจต้องมีการรายงานนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เพื่อขอปรับกรอบเวลาของโครงการ เนื่องด้วยปัจจัยปัจจัยหลายอย่าง และอยากให้มั่นใจว่าเมื่อเปิดใช้บริการจะต้องมีความปลอดภัย เพราะถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สุด รวมถึงการปฎิบัติตามกฏหมายที่ไม่สามารถละเลยได้ หากเลื่อนแต่ทั้งนี้ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าหากมีการเลื่อนโครงการจริงจะมีการกำหนดใหม่ว่าสามารถแจกเงินได้เมื่อไหร่ ขอย้ำว่าตอนนี้ยังไม่มีการยืนยันว่าจะเลื่อนแจกเงินหรือไม่
ส่วนที่มาของเงิน หรือแอพพิเคชั่นถือเป็นปัจจัยหลักที่อาจจะต้องทำให้เลื่อนการแจกเงิน นายจุลพันธ์กล่าวว่า ทั้งสองอย่างถือเป็นปัจจัยที่จะต้องนำมาพิจารณาเพราะทุก เรื่องมีความสำคัญเท่ากันหมดเราต้องทำอย่างละเอียดรอบคอบรอบ พร้อมมีการติดตามตรวจสอบอย่างเข้มข้นซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี ทำให้เรามีความระมัดระวังมากขึ้นเป็นเท่าตัวเพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย อย่างไรก็ตามยืนยันว่า ตอนนี้ยังไม่มีการพูดคุยเรื่องเงินกู้กับธนาคารออมสิน
เมื่อถามว่าที่ผ่านมารัฐบาลยืนยันตลอดว่าที่มาของเงินดำเนินโครงการไม่มีปัญหา แต่ตอนนี้กลับไม่มีความชัดเจน ติดปัญหาในส่วนใด นายจุลพันธ์กล่าวว่า เนื่องจากต้องปฏิบัติตามขั้นตอนทางกฎหมาย เมื่อคณะอนุกรรมการฯมีการประชุมและมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปหาข้อมูลรวบรวมรายงานส่งมายังคณะอนุกรรมการฯ ตอนนี้จึงต้องรอรายงานเพื่อส่งต่อให้คณะกรรมการชุดใหญ่ตัดสินใจ ถือว่ามีความจำเป็นตามกฏหมาย ไม่สามารถลัดวงจรได้ ไม่สามารถดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับโครงการโดยที่ยังไม่มีมติจากคณะกรรมการได้ ทั้งนี้จากการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาไม่ได้มีการสั่งการหรือกำชับอะไรเป็นพิเศษ และยังตอบไม่ได้ว่าการประชุมคณะอนุกรรมการฯจะเกิดขึ้นเมื่อใด