ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00น วันนี้ 21 ค.ค.66 จากการไปสำรวจที่ปากซอยถนนราษฎร์อุทิศ ซอย 16 ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลาและบริเวณปากซอยเพชรเกษม 38 พื้นที่ตำบลควนลัง อ.หาดใหญ่ ฝั่งขาเข้าเทศบาลนครหาดใหญ่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หาดใหญ่ได้นำทั้ง2ตู้ มาเก็บไว้ที่ โรงพักหาดใหญ่
จากการสอบถามชาวบ้านทราบว่า เมื่อช่วงเย็นเมื่อวาน เวลาประมาณ 17.00น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หาดใหญ่ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่มายกตู้กดน้ำกระท่อมไปไว้ที่ สภ.หาดใหญ่
จากการสำรวจตู้ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตู้กดน้ำกระท่อมมาไว้ที่ สภ.หาดใหญ่ ได้แกะล๊อคตู้ที่ใส่น้ำกระท่อมออกและในส่วนตู้ล๊อคที่เก็บเงินยังไม่มีการแกะกุญแจเนื่องจากยังล๊อคอยู่
และเมื่อช่วงเย็นของเมื่อวาน 20 ต.ค.66 ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ เชิญเจ้าของตู้ดังกล่าวไปสอบสวนที่ สภ.หาดใหญ่ ซึ่งให้การว่า ก่อนหน้านี้ เคยทำธุรกิจตู้น้ำมันอัตโนมัติ หรือตู้หยอดเหรียญ แต่รายได้ไม่ดีเท่าไหร่ และเมื่อเห็นว่า การขายน้ำพืชกระท่อม มีรายได้ดี จึงนำตู้จำหน่ายน้ำมันเก่ามาดัดแปลง ขายน้ำสมุนไพร เพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้นเท่านั้น และคิดว่าดีกว่าตั้งตู้เก่าไว้โดยไม่ได้ใช้งาน จนตู้หมดสภาพ โดยภายในใส่ตู้เย็นเก่าไว้ แล้วแช่ขวดน้ำสมุนไพร ประกอบด้วย น้ำกระเจี๊ยบ น้ำเก็กฮวย น้ำพืชกระท่อม ขนาดขวดละ 2 ลิตร ทั้งหมด 3 ขวด ไว้ภายใน และคิดว่าให้เด็กมากดดื่มแก้วละ10บาท
จากการสอบถาม เจ้าของตู้น้ำสมุนไพรหยอดเหรียญ เปิดเผยว่า พอดีตนมีตู้น้ำมันเก่าแบบหยอดเหรียญตั้งอยู่ ซึ่งที่ผ่านมาตู้น้ำมันขายไม่ดีก็เลยเห็นมีการขายน้ำกระท่อมกันตนก็เลยเอามาดัดแปลงขายน้ำกระท่อม โดยใช้ตู้เย็นเก่าเอาไว้ข้างในแล้วก็มีขวดบรรจุน้ำขนาด 2 ลิตร ทั้งหมด 3 ขวด มีน้ำกระเจี๊ยบ น้ำเก็กฮวยและน้ำกระท่อม พอตนเห็นข่าวบอกว่าผิดกฎหมายตนก็เลยเอาน้ำกระท่อมออกไป ซึ่งปัจจุบันตนก็ไม่เข้าใจว่า กฎหมายมันยกเว้นไม่มีความผิดในส่วนพืชกระท่อมแล้ว ตนมองว่าไม่หนักหนาอะไร เด็กกด 10 บาท อะไรอย่างงี้ ดีกว่าเด็กไปซื้อขวด 50 ถึง 70 บาท ตนก็ไม่รู้ข้อมูลในเชิงลึกว่ามีกฎหมายครอบคลุมข้อใดข้อหนึ่งอีก
เอาจริงๆ เจตนาที่ตนทำนั้นมันมีรายได้เข้ามานิดหน่อยก็ยังดีกว่าให้ตู้มันตั้งอยู่เฉยๆ เพราะตู้มันหมดสภาพเป็นตู้เก่า ไม่สามารถทำอะไรได้แล้วตนจึงลองเอามาทำดูว่าพอที่จะไปได้หรือไม่ แต่ก็โอเครายได้พอได้นิดหน่อย ถามว่าวันนึงได้เท่าไรนั้น ประมาณอย่างเก่งขายเกิน 1 ลิตร ถ้า 2 ลิตรไม่หมด ส่วนน้ำกระท่อมที่เอามาขายนั้นตนรับมาจากเค้าอีกทีโดยรับน้ำกระท่อมมาขายจำนวน 2 ลิตรต่อครั้ง ส่วนถามว่าตนตั้งตู้มากี่เดือนแล้วนั้น ตนตั้งตู้ยังไม่ถึง 1 เดือน ค่าไฟยังไม่ครบเลย ถามว่าเสียใจไหมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็เสียใจนะเพราะตนคิดไม่ถึงถ้าคิดตนก็คงไม่ทำตรงนั้น ถ้าผิด 100% นั้น ตนแค่คิดว่าเอาตู้มาพลิกแพลงนิดหน่อยในตรงนี้แต่ถ้านักข่าวบอกว่าเป็นเชิงธุรกิจ ตนบอกเลยว่าเป็นเชิงธุรกิจเล็กๆน้อยๆที่กำลังจะพัฒนา
ทางด้าน พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ ผกก.สภ.หาดใหญ่ เปิดเผยว่า หลังมีการตรวจยึดตู้น้ำกระท่อมหยอดเหรียญมาทำการตวจสอบและเชิญตัวเจ้าของตู้น้ำกระท่อม เบื้องต้นทางเจ้าของตู้น้ำกระท่อมก็ได้รับสารภาพว่าเป็นของตนเองจริง พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาขายน้ำกระท่อมโดยเครื่องช่วยขายอัตโนมัติ ปรับ 50,000 บาท และส่งฟ้องศาลจังหวัดสงขลาภายในอาทิตย์นี้เพื่อดำเนินคดีขั้นตอนตามกฎหมาย
ส่วนเรื่องข้อกฎหมายในการต้มน้ำกระท่อมขายโดยไม่ขออนุญาตเป็นการฝ่าฝืน ซึ่งมีโทษตามมาตรา 50 ของพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 2 ปี และปรับตั้งแต่ 5,000 - 20,000 บาท และการต้มน้ำกระท่อมขายโดยอ้างสรรพคุณว่ารักษาหรือบรรเทาอาการโรค เป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ. 2562 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ