นครพนม สวยงาม อลังการ จัดเรือไฟไหลโชว์คืนแรก เปิดงานออกพรรษาไหลเรือไฟ ประจำปี จัดยิ่งใหญ่ 10 วัน 10 คืน กระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว เชิญร่วมชมประกวดไหลเรือไฟยิ่งใหญ่ คืนวันออกพรรษา 15 ค่ำ เดือน 11 สุดทึ่ง ศิลปินเรือไฟ 12 อำเภอ ร่วมแรงร่วมใจจากพลังศรัทธาสร้างเรือไฟ ลงทุนค่านับล้านบาท สืบสานประเพณี อวดสายตานักท่องเที่ยวแค่คืนวันออกพรรษา ด้านศิลปินเรือไฟย้ำยิ่งใหญ่กว่าความสวยงาม คือ พลังศรัทธาฃ

            เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 20 ตุลาคม 2566 ที่เวทีศาลากลางจังหวัดนครพนม นายวันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม พร้อมด้วย นางสงวน จันทร์พร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม นำข้าราชการเจ้าหน้าที่ จากหน่วยงานภาครัฐเอกชน ประชาชน นักท่องเที่ยว เปิดงานประเพณีออกพรรษาไหลเรือไฟ และงานกาชาดประจำปี 2566 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 – 30 ตุลาคม 2566 รวม 10 วัน 10 คืน เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีอันดีงามของจังหวัดนครพนม รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ทุกคืนจะมีการไหลเรือไฟโชว์ วันละ 1 ลำ ส่วนคืนแรกจัดไหลโชว์ จำนวน 2 ลำ สำหรับไฮไลท์ของงานจะมีขึ้นในคืนวันที่ 29 ตุลาคม 2566 จะมีการประกวดไหลเรือไฟ จากศิลปินเรือไฟ รวม 12 อำเภอ ทั้งหมด 12 ลำ มีความยาวกว่า 70 -80 เมตร สูงประมาณ 20 -30 เมตร ติดตะเกียงไฟจากภูมิปัญญาชาวบ้าน มากกว่า 20,000 – 30,000 ดวง ทุ่มทุนสร้างมูลค่านับล้านบาท เพื่ออวดสายตาประชาชน นักท่องเที่ยว ที่มาเที่ยวชม ถือเป็นการแสดงออกถึง ความรัก สามัคคี ของชาวบ้านในพื้นที่ และเป็นพลังศรัทธา ที่ยิ่งใหญ่ สืบสานมาแต่โบราณ

            สำหรับคืนแรก ได้มีการจัดโชว์ไหลเรือไฟ พร้อมจุดเรือไฟโชว์ สนับสนุนโดยเทศบาลเมืองนครพนม รวมถึงปกครองจังหวัดนครพนม รวม จำนวน 2 ลำ โดยมีการโชว์วิถีชีวิตของศิลปินเรือไฟ ที่ร่วมแรงร่วมใจสร้างเรือไฟ จากไม้ไผ่ เกือบ 10,000 ลำ นำมาต่อเติมเป็นโครงสร้าง ลักษณะคล้ายแพวางทุ่นลอยในแม่น้ำโขง มีโครงสร้าง ความยาวประมาณ 50 -80 เมตร ความยาวประมาณ 20 -30 เมตร แล้วแต่ความศรัทธา และการออกแบบ ก่อนที่จะมีการทำเหล็กดัดเป็นลวดลายต่างๆ เพื่อติดตั้งตะเกียงไฟ จากขยะกระป๋องกาแฟ นำมาประยุกต์เป็นตะเกียงน้ำมัน ดีเซล ผสมน้ำมันก๊าด แบบภูมิปัญญาชาวบ้าน นำไปแขวนตามลวดลายส่องสว่างสวยงามตระกาลตา ส่องสว่างออกมาเป็นลวดลาย นานกว่า 2 -3 ชั่วโมง ส่วนใหญ่ลวดลายตะเกียงไฟ จะเป็นสัญลักษณ์ของ จ.นครพนม รวมถึงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เน้นส่งเสริมการท่องเที่ยว เทิดทูนสถาบันสำคัญ นอกจากนี้ก่อนการปล่อยเรือไฟ จะมีการโชว์จุดตะเกียงไฟ ทีละดวงจากแรงงานคน แสดงออกให้เห็นความรัก ความสามัคคี และพลังศรัทธาของบรรดาศิลปินเรือไฟ ก่อนจะมาเป็นเรือไฟ ต้องลงทุนหลายแสนบาท บางลำทุ่มทุนมูลค่านับล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้างนานกว่า 1 เดือน เพื่อไหลโชว์แค่คืนวันออกพรรษา วันเดียว

            ด้าน นายพนม  พุทธาผา อายุ 49 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโพนบก ต.โพนบก อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม  เจ้าของรางวัลศิลปินเรือไฟ เมื่อปี 2551  ตัวแทนศิลปินเรือไฟ เปิดเผยว่า สำหรับเรือไฟของชาว จ.นครพนม ไม่เพียงสร้างความสวยงาม ให้ประชาชน นักท่องเที่ยวได้ชื่นชม เท่านั้น ความสำคัญของเรือไฟ คือเกิดจากความรัก ความสามัคคี เกิดจากความศรัทธา ของชาวบ้าน ที่มีต่อน้ำโขง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตามประเพณีความเชื่อ แรงงานที่มาร่วมแรงร่วมใจกันเกิดจากพลังศรัทธา ไม่หวังค่าจ้างแรงงาน ความภาคภูมิใจคือ การได้ไหลเรือไฟโชว์ประชาชน นักท่องเที่ยว สำหรับความสวยงามของเรือไฟ ขึ้นอยู่กับการวางตำแหน่งตะเกียงไฟที่ทำจากภูมิปัญญาชาวบ้าน เป็นความชำนาญจากการลองผิดลองถูก ไม่มีเทคโนโลยีเข้ามาช่วย การออกแบบลวดลายเกิดจากความคิดสร้างสรรค์ ฝากพี่น้องประชาชน มาเที่ยวชมงานประเพณีออกพรรษาไหลเรือไฟ ในคืนวันออกพรรษา รับรองจะได้เห็นความยิ่งใหญ่อลังการ และพลังศรัทธาที่เกิดจากความสามัคคีของชาวบ้าน ในพื้นที่ 12 อำเภอ