ดร.ณัฏฐ์ ธีรณัฐสุภานนท์ ประธานมูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา เปิดเผยว่า เรามองเห็นในเรื่องของนักกีฬา ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬาคนปกติ นักกีฬาคนพิการ นักกีฬาอาวุโส หรืออดีตนักกีฬา รวมไปถึง ผู้ฝึกสอน ผู้จัดการทีม ผู้ตัดสิน บุคลากรทางการกีฬา ตลอดจนสื่อมวลชนสายกีฬา ซึ่งทุกคนมีรายได้จากการทำหน้าที่และนำไปดำรงชีพหรือไปประกอบสัมมาอาชีพในบั้นปลายชีวิต แต่ไม่มีพี่เลี้ยงในการให้คำแนะนำ ให้คำปรึกษา ป้องกันไม่ให้ถูกหลอกถูกโกง ไม่ว่าจะซื้อที่ดิน ซื้อบ้าน ปลูกบ้าน ซ่อมบ้าน ซื้อรถยนต์ หรืออยากลงทุนเพื่อหารายได้ ซึ่งทุกธุรกรรมต้องมีสัญญา ทางมูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา และสำนักงานคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สคช.) สำนักงานอัยการสูงสุด ก็จะเข้าไปช่วยในการตรวจสัญญา ช่วยเช็ค ช่วยดูว่าอันนี้ควรลงทุน ควรซื้อ และช่วยตรวจสอบว่าคู่สัญญากับเราติดแบล็คลิสต์หรือไม่ ลงทุนแล้วมีอัตราเสี่ยงแค่ไหน ซึ่งจะเป็นการป้องกันก่อนที่มิจฉาชีพจะเข้ามาหลอกได้  ถ้าไม่อยากถูกหลอก ไม่อยากถูกโกง สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนใกล้บ้าน ตอนนี้มี 120 กว่าสาขาทั่วประเทศ หรือสายด่วน 1157 และที่สำคัญคือทุกอย่างฟรี ไม่เสียเงินค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น

"เบื้องต้นได้เข้าหารือกับ นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สคช.) สำนักงานอัยการสูงสุด และเตรียมทำเอ็มโอยูร่วมกัน ในการเป็นพี่เลี้ยงคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือทางกฎหมายในทุกมิติแก่นักกีฬาและบุคคลากรทางกีฬา รวมถึงสื่อมวลชนสายกีฬา เพื่อให้ชีวิตไม่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพในรูปแบบต่าง ๆ นอกจากนั้นยังจะเข้าหารือกับทางการกีฬาแห่งประเทศไทยอีกทางหนึ่งด้วย"