วันที่ 19 ต.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังกระทรวงการต่างประเทศขอแจ้งว่า สอท. ณ กรุงเทลอาวีฟได้รับประสานเป็นการภายในจากบริษัทจัดการศพของอิสราเอลว่า สถาบันนิติเวชของอิสราเอลอนุญาตให้นำร่างของคนไทยที่เสียชีวิตจำนวน 8 ราย ออกจากสถาบันฯ ซึ่งสถานทูตจะส่งร่างพี่น้องแรงงานไทยชุดแรกดังกล่าวกลับประเทศไทยด้วยสายการบิน El Al เที่ยวบินที่ LY083 ออกจากอิสราเอลในวันที่ 19 ต.ค. 66 เวลา 20.00 น. และถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในวันที่ 20 ต.ค. 66 เวลา 08.50 น.
โดยรายชื่อทั้ง 8 ราย ประกอบด้วย นายพงษธร ขุนศรี นายพิชิต นาจันทร์ นายชัยรัตน์ สานุสันต์ นายอานันต์ เพชรแก้ว นายพงษ์พัฒน์ สุชาติ นายอนุชา โสภากุล นายพงษ์เทพ กุสะรัมย์ และนายธนกฤจฒ์ ปรากฏวงษ์ ซึ่งรายชื่อร่างพี่น้องแรงงานไทยชาวอุดรธานีมี 2 ราย คือ กับนายอนุชา โสภากุล หรือ “แจ๊ค” ชาวอำเภอกุมภวาปี และนายชัยรัตน์ สานุสันต์ หรือ “ปู” ชาวอำเภอน้ำโสม
ซึ่งผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้าน ม.9 ต.บ้านหยวก อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของนายชัยรัตน์ สานุสันต์ หรือ ปู แรงงานที่เสียชีวิตที่ร่างจะถูกส่งกลับมาให้ญาติ รายที่ 2 ของจ.อุดรธานี บรรยากาศล่าสุดภรรยาและชาวบ้านได้ช่วยกันเตรียมงานกันอย่างขมักเขม่นเช่นกันโดยได้ตั้งเต็นท์จัดเตรียมเครื่องใช้ที่จะใช้ในงานรอไว้อย่างเพียบพร้อม โดยจัดงานศพไว้ที่บ้าน
ด้านน.ส.เอื้อนจิตร อายุ 41 ปี ภรรยานายชัยรัตน์ฯ เปิดเผยว่า คืนวานสถานทูตประเทศไทยประจำอิสราเอลโทรศัพท์แจ้งมาว่า จะมีการส่งศพสามีกลับมายังภูมิลำเนาโดยจะถึงประเทศไทยในวันพรุ่งนี้ (20 ต.ค.) เวลาประมาณ 08.50 น.คาดว่าศพจะมาถึงช่วงเย็นๆ โดยกระทรวงแรงงานจะดำเนินการให้ทุกอย่างโดยญาติไม่ต้องเดินทางมา
ทั้งนี้ ภรรยาของนายปู บอกอีกว่า สำหรับงานศพของสามีนั้นจะตั้งบำเพ็ญกุศลไว้ 3 คืน จากนั้นวันจันทร์ที่ 23 ตุลาคม 2566 จะมีพิธีฌาปนกิจ สำหรับสิทธิประโยชน์เบื้องต้นที่ทางญาติจะได้รับพอรับทราบข้อมูลแล้วโดนพร้อมที่จะช่วยเต็มที่ ทั้งนี้สามีได้มีการกู้ยืมเงินจาก ธกส.ไป 150,000 บาท เพื่อใช้เดินทางไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล ตอนนี้ก็ยังเป็นหนี้อยู่ ซึ่งหลังเสร็จงานศพตนก็จะเข้าไปคุยกับ ธกส.อีกครั้ง ถ้าหากเป็นไปได้อยากจะให้ปลดหนี้ที่เหลือให้เลยทั้งหมด
พร้อมกันนี้ นางสาวเอื้อนจิตร บอกอีกว่า ตนแต่งงานอยู่กินกับสามีมาได้ 6 ปี ไม่มีบุตรด้วยกัน แต่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันจริงๆ เพียง 3 ปีครึ่ง หลังจากสามีเดินทางไปทำงานอยู่ที่สวนอโวคาโด ประเทศอิสราเอลที่อยู่ติดกับฉนวนกาซ่า สามีส่งเงินมาให้ทุกเดือนๆละ 30,000 บาท เพื่อเป็นใช้จ่ายและใช้หนีทั้งงวดรถและ ธกส. จากวันนั้นถึงวันนี้ตนในฐานะภรรยายังรักและคิดถึงนายชัยรัตน์เหมือนเดิม หากเปลี่ยนแปลงได้อยากให้กลับมาแบบมีชีวิต มีตนและสามีอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา เราหวังสามีเก็บเงินได้สักก้อนจะมีทายาทและใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข