ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า นราธิวาส มีขนมพื้นบ้านที่อร่อยๆมากมาย ที่สืบทอดกันมา จากปู่ย่า ตายาย ทำขายกันมา จนมาถึงรุ่นลูกรุ่นหลานและที่แปลกๆก็มีเยอะ อย่างเช่น ขนม “เจะแมะ” ก็อีกหนึ่งขนมที่มีความอร่อย จากการเอาหัวมันเทศ มาผสมกับแป้งสาลี เกลือและใส่ไส้น้ำตาลทราย ปั้นแล้วลงไปทอด ใช้ไฟกลาง ทอดเพียง 5 นาที ก็สามารถยกมาทานกับน้ำชา กาแฟ ได้อย่างอร่อยลงตัว แถมมีราคาถูกลูกละ 2.50 สตางค์เท่านั้น มาอุดหนุน ชิมความอร่อยได้ที่ ซุ้ม “ เจะแมะจิ๋ว ” กันนะ สดใหม่ทุกวัน
สำหรับ ขนม “เจะแมะ” ที่ตั้งชื่อแบบนี้ มีที่มาว่า เจะ แปลว่า เป็นคำนามที่ใช้แทนเรียก ปู่หรือตา ส่วน แมะ ก็เป็นคำนามที่ใช้แทนเรียก ย่า ยาย เป็นภาษามลายูพื้นบ้าน “ ขนมเจะแมะ ”จึงเป็นชื่อขนมที่สืบทอดจากรุ่นบรรพบุรุษ มาช่วงหลังๆไม่รู้จะตั้งชื่อว่า อะไร เลยเรียกง่ายๆว่าขนมเจะแมะ หรือขนมตายาย เรียกกันมาจนปัจจุบัน แต่สมัยก่อน จะเป็นลูกใหญ่ เท่ากำปั้นมือ แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยน ทุกๆอย่างเลยเปลี่ยนไปด้วย รสชาติ อาจจะหวานน้อยลง ขนาดพอดีคำ และวิธีการทำ ทันสมัยมากขึ้น
ส่วนวัตถุดิบ จะมีหัวมันเทศ (เหลือง ม่วง )แป้งสาลี น้ำตาลทราย เกลือ น้ำ แต่ร้านนี้ทำสดใหม่ทุกวัน โดยมีวิธีทำ ด้วยการเอาหัวมันเทศที่ล้างและปลอกเปือก นำไปต้มให้สุก ยกขึ้น พอมันเทศเย็น จากนั้น ก็นำมาใส่ไว้ในภาชนะ นำน้ำตาลทราย เกลือ แป้งสาลี น้ำ ตามสัดส่วนของสูตรตัวเอง มาผสมและคลุกขยี้ ให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวกัน ถ้าแข็งปั้นเป็นก้อนไม่ได้ หรือแตก ก็สามารถเพิ่มน้ำนิดหน่อยได้ เพราะเวลาหยิบมันเทศใส่น้ำตาล จะได้ไม่ติดนิ้ว และแตกในกระทะเวลาทอดได้
ซึ่ง รุสนีซัน สนิ เจ้าของขนมเจะแมะ เล่าว่า สมัยก่อนจะเป็นลูกใหญ่ อันนี้ปรับใหม่ เล็กจะได้พอดีคำ เวลากินมันจะได้อิ่มเลยประมาณนี้ ส่วนผสมหลักๆ ก็จะมี แป้ง หัวมัน น้ำตาลทราย แต่ถ้าสูตรบางคน จะผสมไข่ ใส่กะทิก็มี แต่จะแตกต่างกันไป ขายได้วันละ 20-30 กิโลกรัม วันละ 4,000- 4,500 บาท แต่ถ้าช่วงเทศกาล จะขายได้ 5,000 บาทถึง6,000 ขึ้นไป ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวอ่าวมะนาว (อุทยานแห่งชาติ) เป็นขนมโบราณ
ส่วนพิกัดร้าน สาขา1 อยู่ที่ ร้านข้าวแกงอร่อย ทางไปสายตากใบ ตรงข้ามโรงเรียนขับรถยนต์ เขาตันหยง ขณะที่สาขา2 ปากทางเข้าอุทยานแห่งชาติอ่าวมะนาว-เขาตันหยง ประมาณ 5 เมตร มีเต้นส์กางอยู่ขวามือ ช่วงแรกเปิดเวลา 06.30-12.00 น.ช่วงที่ 2 เวลา13.00- 17.30 น. ขายทุกวัน เพจเจะแมะจิ๋ว นราธิวาส