บสย.และ กอช.ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือส่งเสริมการออม SMEs - Start up นักเรียนอาชีวะ และสมาชิก กอช. เร่งให้ความรู้ทางการเงิน ส่งเสริมและสร้างภูมิคุ้มกันด้านการออม เพิ่มโอกาสเข้าถึงสินเชื่อในระบบ ก่อนเริ่มต้นธุรกิจ สร้างความมั่นคงทางอาชีพในอนาคต
บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกิจกรรมส่งเสริมการออมกับ กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ในการดำเนินกิจกรรม “อาชีวะสร้างอาชีพ เพิ่มเงินออม ต่อยอดธุรกิจ” อบรมให้ความรู้ทางการเงิน (Financial Literacy) ส่งเสริมและสร้างภูมิคุ้มกันอย่างมีระบบด้วยการบริหารจัดการด้านการเงิน และรู้จักการออม ซึ่งถือเป็นรากฐานก่อนเริ่มต้นทำธุรกิจ ให้แก่กลุ่มนักเรียนอาชีวศึกษาที่กำลังจะสำเร็จการศึกษา ซึ่งกลุ่มนี้ถือเป็นกลไกสำคัญในตลาดแรงงานและขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้กับประเทศ โดยในแต่ละปีมีผู้สำเร็จการศึกษา ระดับอาชีวศึกษา กว่า 3 แสนรายต่อปี การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ นับเป็นการต่อยอดจากโครงการความร่วมมือระหว่าง บสย. และ กอช. ภายใต้กิจกรรม CSR “บสย. สร้างชีวิตใหม่” ซึ่งที่ผ่านมาได้ส่งเสริมโอกาสทางธุรกิจและการออมให้แก่กลุ่มผู้ต้องขังในเรือนจำ ตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน มีผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรดังกล่าวมากกว่า 1,000 คน
นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป กล่าวว่า สำหรับความร่วมมือของทั้ง 2 หน่วยงาน ในครั้งนี้ เป็นการจัดโครงการ “อาชีวะสร้างอาชีพ เพิ่มเงินออม ต่อยอดธุรกิจ” เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันด้านการประกอบอาชีพและการบริหารจัดการด้านการเงินเพื่อธุรกิจ และการออม นอกจากนี้ ในอนาคต บสย. จะต่อยอดความร่วมมือด้านข้อมูลกับ กอช. ซึ่ง บสย. มีผู้ประกอบการในฐานข้อมูลกว่า 8 แสนราย โดย 70% หรือประมาณ 5.6 แสนราย เป็น Micro SMEs ซึ่งเราต้องการสร้างภูมิคุ้มกันในมิติด้านการเงินให้ผู้ประกอบการกลุ่มนี้ ตามแนวคิด “ขายได้ ออมเป็น” ด้วยการส่งเสริมให้ Micro SMEs ออมเงินกับ กอช. เพื่อสร้างความมั่นคงในวัยเกษียณ หรือหากเป็นอาชีวะจบใหม่ บสย. ก็อยากสนับสนุนทักษะความรู้ทางการการเงิน เพื่อเพิ่มโอกาสเข้าถึงสินเชื่อในระบบ ก่อนเริ่มต้นธุรกิจ สร้างความมั่นคงทางอาชีพในอนาคต
สำหรับมิติความร่วมมือทั้ง 3 ด้าน ทั้งกลุ่มผู้ต้องขัง กลุ่มนักเรียนอาชีวะ และ Micro SMEs บสย.มีผลิตภัณฑ์ค้ำประกันรองรับ คือ Start Up ภายใต้โครงการ “บสย. SMEs เข้มแข็ง” เพื่อนักศึกษาจบใหม่ อาชีพอิสระ และสมาชิก กอช. วงเงินค้ำประกันต่อราย 10,000-100,000 บาท ฟรีค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 2 ปีแรก และค้ำประกันสูงสุด 10 ปี นอกจากนี้ สมาชิก กอช. สามารถเข้ารับการอบรมด้านธุรกิจกับ บสย.ฟรี ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถสอบถามเบื้องต้นได้ที่ Call center บสย. 02-890-9999 หรือขอรับคำปรึกษาทางการเงินผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์ม LINE Official Account: @tcgfirst ของ บสย. ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ กล่าวว่า ในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนส่งเสริมความร่วมมือทักษะการวางแผนทางการเงิน จัดสรรเงินออมให้งอกเงยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบอาชีพอิสระที่เป็นผู้ประกอบการ SMEs ได้มีเงินออมยามเกษียณกับ กอช. รวมถึงขับเคลื่อนให้เยาวชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการออมเงินเพื่ออนาคต ซึ่งสอดรับกับภารกิจของทั้งสองหน่วยงาน ในการส่งเสริมการออมกับประชาชนคนไทย ที่มีสิทธิสมัครเป็นสมาชิก กอช. เพียงมีอายุ 15 – 60 ปี โดยไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33, มาตรา 39, มาตรา 40 ทางเลือก 2 และทางเลือก 3,ไม่เป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และไม่เป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ด้วยการออมเงินกับ กอช. ขั้นต่ำเพียง 50 บาท สูงสุด 30,000 บาท ต่อปี ในเดือนถัดไปรัฐจะสมทบเงินเพิ่มให้ตามช่วงอายุ สูงสุด 100% หรือ ไม่เกิน 1,800 บาท/ปี ช่วงอายุ 15 ถึง 30 ปี รัฐสมทบให้ 50% ของเงินออมแต่ละครั้ง โดยรวมกันทั้งปีไม่เกิน 1,800 บาท ช่วงอายุ 30 ปีขึ้นไป จนถึง 50 ปี รัฐสมทบให้ 80% ของเงินออมแต่ละครั้ง โดยรวมกันทั้งปีไม่เกิน 1,800 บาท ช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป จนถึง 60 ปี รัฐสมทบให้ 100% ของเงินออมแต่ละครั้ง โดยรวมกันทั้งปีไม่เกิน 1,800 บาท
โดย กอช.เป็นกองทุนที่มีอิสระในการออม ที่เปิดโอกาสให้สมาชิกออมเงินสะสมได้ตามกำลังทรัพย์ สิทธิในการเป็นสมาชิกคงเดิม เงินออมที่สมาชิกออมกับ กอช. สามารถนำไปลดหย่อนภาษี ได้ตามจำนวนจริง สูงสุด 30,000 บาท/ปี สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสมัครและส่งเงินออมสะสม ได้ผ่านสมาร์ทโฟนของตนเองในแอปพลิเคชัน ‘กอช.’ และไลน์ กอช. @nsf.th ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ กอช. www.nsf.or.th และเฟซบุ๊ก ‘กองทุนการออมแห่งชาติ – กอช.’