ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้การต้อนรับ นายเหมียว ชิ่งวั่ง รองประธานเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง สาธารณรัฐประชาชนจีน และคณะ เพื่อกระชับความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างไทยและเมืองกว่างซี โดยมี นายกิตติ เชาวน์ดี เลขานุการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คณะทำงาน และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ ห้องประชุมกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ถนนราชดำเนินนอก
โดยนางสาวสุดาวรรณ กล่าวว่า การเข้ามาพบปะเพื่อหารือแลกเปลี่ยนทัศนะและมุมมองด้านการท่องเที่ยวระหว่างไทย และจีน โดยเฉพาะมณฑลกว่างซี หรือเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ซึ่งเป็นมณฑลใหญ่ของประเทศจีน ที่มีเมืองสำคัญด้านการท่องเที่ยวมากมาย และมีประชากรจำนวนมาก จึงเป็นโอกาสสำคัญที่เราจะได้อัพเดทสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวระหว่างกัน ซึ่งจีนเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่รัฐบาลกำลังมีมาตรการผลักดันให้เกิดการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ดังนั้นการหารือในครั้งนี้ก็เป็นการตอกย้ำถึงความสัมพันธ์และมิตรภาพอันดีระหว่างกัน
ซึ่งประเด็นในการหารือเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ไทย - จีน ได้แก่ 1. การส่งเสริมและสนับสนุนในการสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของการเดินทางท่องเที่ยว และแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวระหว่างกัน ผ่านการลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ไทย – จีน 2. การขยายความร่วมมือไทย-จีน โดยการจัดสรรช่วงเวลาเที่ยวบิน ณ ท่าอากาศยานกรุงเทพฯ และสนามบินหนานหนิง เพื่อเพิ่มเที่ยวบินตรง (Direct Flight) ในเส้นทางหนานหนิง – กรุงเทพฯ เพื่ออำนวยความสะดวกและให้บริการแก่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและจีน รวมทั้งก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวระหว่างกันมากขึ้น
ส่วน 3.การส่งเสริมการเดินทางถ่ายทำภาพยนตร์จีนในไทย ผ่านการประชาสัมพันธ์มาตรการคืนเงิน (Cash Rebate) ให้กับภาพยนตร์ที่มีการใช้จ่ายในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท และการยกเว้นภาษีนักแสดงต่างชาติ 4.ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ไทยยินดีที่จะแลกเปลี่ยนความร่วมมือระหว่างกันในด้านการส่งเสริมและสนับสนุนการนวดแผนไทย และแพทย์แผนจีน ตลอดจนผลักดัน Soft Power อาหารไทยที่ได้รับความนิยมจากชาวจีน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) ระหว่างกัน เช่น ต้มยำกุ้ง แกงเขียวหวาน ผัดไทย ผัดกะเพรา
ขณะที่ 5. ความร่วมมือตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลในเรื่องข่าวปลอม (Fake News) ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยและจีน เพื่อให้เกิดการประชาสัมพันธ์ข่าวสารภาพลักษณ์ที่ดีของทั้งสองประเทศ เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงประจักษ์และน่าเชื่อถือระหว่างกัน