เมียหนุ่มแรงงานชาว อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ร่ำไห้แทบขาดใจจุดธูปเรียกดวงวิญญาณสามีกลับบ้านเกิด หลังทราบข่าวร้ายจากทางกรมการจัดหางานว่าสามีเสียชีวิตจากเหตุสู้รบในอิสราเอล ครอบครัววอนรัฐช่วยนำศพกลับมาประกอบพิธีทางศาสนา หากเอาศพกลับมาไม่ได้ขอแค่เถ้ากระดูกมาทำบุญก็ยังดี  เผยทั้งน้ำตาขาดการติดต่อหลังวีดีโอคอลคุยกันครั้งสุดท้ายวันที่ 7 ต.ค. คิดว่าแค่ถูกจับตัว

          (18 ต.ค.66)  น.ส.สายชล   ชาติกุญชร  อายุ 38 ปี  พร้อมด้วยนางเอมอร   เรียงไข  อายุ 59 ปี ภรรยาและแม่ ของนายจักรพันธ์  เดี่ยวไธสง  อายุ 37 ปี แรงงานชาว ต.บ้านเป้า  อ.พุทไธสง  จ.บุรีรัมย์ พร้อมญาติพี่น้อง ได้จุดธูปเรียกดวงวิญญาณของนายจักรพันธ์   กลับบ้านเกิดทั้งน้ำตา   หลังทราบข่าวจากทางกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน  ยืนยันว่าสามีได้เสียชีวิตจากเหตุสู้รบกันที่อิสราเอลแล้ว  ซึ่งทางครอบครัวก็ได้เรียกร้องให้ทางการช่วยนำศพนายจักรพันธ์  กลับมาประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด   และขอให้ช่วยเหลือครอบครัวด้วย  ลำพังเงินจะจัดงานศพยังไม่มี  เพราะนายจักรพันธ์ถือเป็นเสาหลักของครอบครัว  แม่ก็ไม่มีรายได้อะไร  ส่วนภรรยาก็ป่วยเป็นมะเร็งทำงานหนักไม่ได้  ก็รอความหวังจากนายจักรพันธ์  ที่ไปทำงานต่างประเทศเท่านั้น  

         น.ส.สายชล  ภรรยา   ได้กอดรูปถ่ายของสามีร้องไห้ตลอดเวลา พร้อมเล่าทั้งน้ำตาว่า   ทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียสามีอยู่กินกันมาเกือบ 20 ปีทั้งรักและผูกพัน   ที่สามีตัดสินใจไปทำงานต่างประเทศเพราะอยากมีรายได้มาดูแลครอบครัวเพราะตัวเองก็ป่วยเป็นมะเร็งทำงานหนักไม่ได้  ลูกชายก็กำลังเรียน ส่วนย่าก็อายุมากแล้ว  ช่วงที่สามีทำงานที่อิสราเอลก็ไลน์คุยกันทุกวัน  กระทั่งขาดการติดต่อช่วงที่เกิดเหตุสู้รบเมื่อวันที่ 7 ต.ค.66  แต่ก็ภาวนาขอให้สามีรอดชีวิต  แต่พอได้ยินข่าวร้ายว่าสามีเสียชีวิตแล้วมันทำใจไม่ได้  ไม่รู้จะใช้ชีวิตต่อยังไง  ไหนจะภาระหนี้สินอีกหลายแสนบาท  แต่ก็บอกกับรูปถ่ายสามีว่าจะเข้มแข็งจะพยายามหางานทำเพื่อดูแลลูกชาย และย่า ไม่ต้องเป็นห่วง    

         แต่ก็อยากให้ทางการช่วยเหลือนำศพสามีกลับบ้านเกิด เพื่อมาประกอบพิธีทางศาสนา  แต่หากไม่สามารถนำศพกลับมาได้  ก็ขอแค่เถ้ากระดูกมาทำบุญก็ยังดี  และอยากให้ช่วยเหลือเยียวยาด้วย  

        ด้านนางเอมอร   เรียงไข   ผู้เป็นแม่  บอกว่า   หลังจากได้รับการยืนยันจากทางการว่านายจักรพันธ์ ลูกชายเป็นแรงงานที่เสียชีวิตจากเหตุสู้รบที่อิสราเอลเป็นรายล่าสุด   ครอบครัวต่างก็ช็อกและทำใจไม่ได้  ก็พากันกอดกันร้องไห้  เพราะก่อนหน้านี้แม่กับภรรยา ก็ได้วีดีโอคอลคุยกับนายจักรพันธ์ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุขึ้นวันแรก  แต่ระหว่างคุยวีดีโอคอลกับลูกชาย ก็บอกกับแม่และภรรยาว่าแค่นี้ก่อนนะ ทหารมา แล้วสายก็ตัดไป  

          ที่ผ่านมาครอบครัวพยายามไลน์ และเฟสติดต่อหาลูกชายตลอด แต่ก็ติดต่อไม่ได้ตอนแรกคิดว่าอาจจะแค่ถูกจับเป็นตัวประกัน หรืออาจจะปิดมือถือเพื่อหลบซ่อนตัว  จึงภาวนาขอให้ปลอดภัยมาตลอด   และที่ผ่านมาแม่ก็ไปดูหมอตามความเชื่อหลายที่  ส่วนใหญ่ก็บอกว่าลูกชายยังมีชีวิต ทำให้ยังมีความหวังแต่พอวันนี้ได้ทราบข่าวร้ายก็ทำใจไม่ได้