เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2566 นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธานแถลงข่าวการจัดสร้างพระพุทธสิหิงค์จำลอง ในโอกาสครบรอบ 112 ปี แห่งการสถาปนากรมศิลปากร ณ ห้องประชุมอาคารดำรงราชานุภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า พระพุทธสิหิงค์จำลอง จัดสร้างเพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาส 112 ปี แห่งการสถาปนากรมศิลปากร พุทธศักราช 2566 แต่เนื่องจากพระพุทธสิหิงค์เป็นพระพุทธรูปสำคัญ จึงต้องขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณ เพราะฉะนั้นการจัดสร้างครั้งนี้เป็นไปด้วยความถูกต้อง โดย พระพุทธสิหิงค์ เป็นพระพุทธสำคัญอันดับ 3 รองจากพระแก้วมรกตและพระพุทธชินราช นอกจากนี้ยังกล่าวกันว่า พระพุทธสิหิงค์เป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะละม้ายคล้ายองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เนื่องจากเชื่อกันว่าพญานาคที่เคยเห็นพระพุทธเจ้าได้เนรมิตร่างเป็นแบบให้ช่างปั้น ซึ่งองค์จริงประดิษฐานอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร และนี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี ที่กรมศิลปากร ทำรูปจำลองพระพุทธสิหิงค์ เป็นพระบูชาขนาด 9 นิ้ว 5 นิ้ว และ 3 นิ้ว รวมทั้งเหรียญและพระกริ่งขนาดเล็ก ในรอบ 40-50 ปี ซึ่งไม่เคยมีทำมาก่อน
นายพนมบุตร กล่าวอีกว่า “ความพิเศษในการจัดสร้างครั้งนี้ ใต้ฐานของพระพุทธสิหิงค์จำลองทุกองค์ได้บรรจุไม้ช่อฟ้าเดิม ซึ่งเป็นส่วนสูงสุดของพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ สถานที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ และเทียนชัยเข้าพรรษา ซึ่งถวายองค์พระพุทธสิหิงค์ เพื่อเป็นนิมิตแห่งความสว่างไสวของชีวิต ในการทำพิธีพุทธภิเษกจะทำในพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ซึ่งองค์จริงของพระพุทธสิหิงค์ประดิษฐานอยู่ โดยจะมีพิธีมหาพุทธาภิเษกในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2566 เวลา 13.49 น. ซึ่งเป็นวันมหาสิทธิโชค และตรงกับราชาแห่งฤกษ์ โดยจะอัญเชิญวัตถุมงคลที่จัดสร้างทั้งหมดไว้ภายในพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ เป็นเวลา 1 ราตรี เพื่อซึมซับความศักดิ์สิทธิ์ จากองค์พระพุทธสิหิงค์ และถือเป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง”
“รายได้จากการเช่าบูชาจะนำเข้ากองทุนโบราณคดี เพื่อใช้เป็นเงินอุดหนุนบูรณะโบราณสถานและกิจการของพิพิธภัณฑ์ รวมทั้งเป็นสวัสดิการของลูกจ้าง ซึ่งครั้งนี้ท่านจะได้บูชาพระพุทธรูปและพระเครื่องพระพุทธสิหิงค์ ออกแบบโดยสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร นอกจากนี้ยังได้นิมนต์พระเกจิอาจารย์ซึ่งเป็นที่นับถือของพุทธศาสนิกชน 9 รูป ประกอบด้วย พระราชพัฒนากร (หลวงพ่อสมชาย) วัดปริวาสราชสงคราม พระราชภาวนาวชิรคุณ วิ. (หลวงปู่จื่อ) วัดเขาตาเงาะ จ.ชัยภูมิ พระภาวนาวิสุทธิโสภณ วิ. (หลวงพ่อพระมหาสุรศักดิ์) วัดประดู่ จ.สมุทรสงคราม พระมงคลวโรปการ (หลวงพ่อชำนาญ) วัดชินวราราม จ.ปทุมธานี พระครูวิมลญาณอุดม (พระอาจารย์ธรรมนูญ) วัดมณีชลขัณฑ์ จ.ลพบุรี พระครูวิศิษฎพิทยาคม (หลวงพ่อวราห์) วัดโพธิ์ทอง พระครูปฐมวราจารย์ (หลวงพ่ออวยพร) วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม พระครูอดุลวิริยกิจ (หลวงพ่อเอื้อน) วัดวังแดงใต้ จ.พระนครศรีอยุธยา และพระครูวิสุทธิ์วิทยาคม (หลวงพ่อทอง) วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา มาทำพิธีพุทธาภิเษก” นายพนมบุตร กล่าวทิ้งท้าย
ด้าน นายพยัพ คำพันธุ์ นายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่อง พระบูชาไทย และประธานชมรมพระเครื่องมรดกไทย กล่าวว่า พระพุทธสิหิงค์ เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของเรา ผมเชื่อเหลือเกินว่างานครั้งนี้จะเป็นประวัติศาสตร์ และปลื้มใจที่ได้เห็นงานทรงคุณค่า เราเป็นชาวพุทธ เราเป็นคนไทย พระกับสังคมไทยเป็นสิ่งคู่กัน ทุกศาสนาทุกชนชาติก็มีของสำคัญประจำแต่ละประเทศทั้งนั้น พระพุทธสิหิงค์ เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองซึ่งยังคงอยู่คู่คนไทยชั่วนิจนิรันดร์
พุทธศาสนิกชนและผู้สนใจสามารถสั่งจองพระพุทธสิหิงค์ พระกริ่งพระพุทธสิหิงค์ และเหรียญพระพุทธสิหิงค์ ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายพัสดุ กลุ่มคลังและพัสดุ สำนักบริหารกลาง ชั้น 3 อาคารกรมศิลปากร เทเวศร์ โทร.0 2126 6559 หรือ facebook page พระพิฆเนศวร 108 ปี กรมศิลปากร