พระครูวิรุฬห์สุวรรณดิตถ์ (พระอาจารย์สมบัติ กนฺตธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดท่าทอง จัดพิธีบวงสรวงและวางศิลาฤกษ์หลวงพ่อองค์ดำ สำหรับก่อสร้างอาคารประดิษฐาน พระพุทธสุวรรณฉัพพรรณรังสี ( หลวงพ่อองค์ดำ ) จำลอง
ที่บริเวณลานหน้าพระอุโบสถ์ วัดท่าทอง ต.วังกะพี้ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ พระครูวิรุฬห์สุวรรณดิตถ์ (พระอาจารย์สมบัติ กนฺตธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดท่าทอง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ประกอบพิธีบวงสรวง และ วางศิลาฤกษ์หลวงพ่อองค์ดำ สำหรับก่อสร้างอาคารประดิษฐาน พระพุทธสุวรรณฉัพพรรณรังสี (หลวงพ่อองค์ดำ) วันที่ 18 ตุลาคม 2566 เวลา 09.39 น.ตรงกับวันพุธขึ้น 4 ค่ำ เดือน 11 ปีเถาะ วันอธิบดี วันแห่งความสำเร็จ โชคดี มีอำนาจ พร้อมเตรียมวัตถุมงคลที่รฤก หลวงพ่อองค์ดำ รุ่น 1 เพื่อไว้บูชาเสริมความสิริมงคลแก่ชีวิตตนเองและครอบครัว โดยมีนายสุรพงษ์ หุณฑสาร รองนายกเทศมนตรีตำบลวังกะพี้ ประธานฝ่ายฆราวาส นายประดิษฐ์ แก้วคำ เจ้าพิธีพราหมณ์ทำพิธีกล่าวคำบวงสรวงบูชา อัญเชิญเหล่าเทพเทวดา เจ้าที่ เจ้าทาง เจ้าป่า เจ้าเขา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในทั่วสากลพิภพ รับรู้ถึงพิธีบวงสรวงบูชา ด้วยเครื่องบายศรี ดอกไม้ ในพิธีบวงสรวงและวางศิลาฤกษ์หลวงพ่อองค์ดำ สำหรับก่อสร้างอาคารประดิษฐาน พระพุทธสุวรรณฉัพพรรณรังสี (หลวงพ่อองค์ดำ) จำลอง ขนาดหน้าตักกว้าง 30 นิ้ว สูง 30 นิ้ว อาศัยแบบพระพุทธรูปองค์จริง ปางมารวิชัย (มาระวิชัย) หรือ ชนะมาร หรือ มารสะดุ้ง เป็นพระพุทธรูปปางหนึ่ง อยู่ในพระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ซ้ายหงายวางบนพระเพลา พระหัตถ์ขวาวางคว่ำลงที่พระชานุ นิ้วพระหัตถ์ชี้ลงที่พื้นธรณีในคราวที่พระองค์ทรงเอาชนะมารได้ ศิลปะสมัยสุโขทัยขุดพบได้บริเวณพื้นที่ระหว่างวิหารพระนิมมานโกวิทและพระอุโบสถ ในปี พ.ศ.2311 ในช่วงก่อตั้งวัดท่าทอง คณะกรรมการวัดมีมติลงความเห็นควรนำพระพุทธรูปดังกล่าวประดิษฐานไว้ที่บริเวณหน้าบันพระอุโบสถ ในเวลาต่อมาทางวัดได้รับวิสุงคามสีมา เมื่อ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2479 จึงเป็นวัดที่สมบูรณ์แบบ นับถึงปัจจุบันวัดท่าทองมีอายุเก่าแก่ถึง 255 ปี.