จากกรณี น.ส.อาทิยา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่ง จ.นครศรีธรรมราช เครียดถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกโอนเงินดาวน์ผ่อนซื้อไอโฟน 13 ทางออนไลน์ เกือบ 2 หมื่นบาท สุดท้ายร้านปิดเฟซบุ๊กหนี เจ้าตัวเขียนจดหมายถึงแม่ให้ช่วยใช้หนี้สินที่ขอยืมมาจากเพื่อน ก่อนตัดสินใจผูกคอดับคาบ้านพัก 

ล่าสุด วันที่ 18 ต.ค.66 ครอบครัวได้พบหลักฐานสำคัญเป็นจดหมายมีข้อความอธิบายถึงเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอให้แม่โอนเงินคืนเพื่อน 2 คน หลักฐานทั้งหมดอยู่ในแช็ต ถ้าแม่อยากได้เงินคืนแม่ไปแจ้งความ พร้อมทั้งขอโทษแม่และบอกด้วยว่า ไม่ได้คิดสั้น 

ด้านแม่ของ นักเรียนหญิงคนดังกล่าว เล่าว่า ลูกสาวเป็นลูกคนโต อยู่กับตาและยาย ส่วนตนไปทำงานเป็นแม่บ้านที่มหาวิทยาลัย โดยตนกับพ่อของน้องได้แยกทางกัน แต่ก็ส่งเสียดูแลลูกตลอด เวลาลูกมีปัญหาหรือติดขัดเรื่องใด ก่อนหน้านี้ลูกเขยขอจะซื้อ iPad เพื่อใช้ในการเรียนที่มหาวิทยาลัย เพราะกำลังจะจบ ม. 6 โดยลูกมีความใฝ่ฝันอยากจะเรียนด้านนิติศาสตร์ ตนได้ซื้อ iPad ให้ลูกไปหนึ่งเครื่อง ต่อมา ลูกบอกว่าอยากจะได้ iPhone ซึ่งตนก็บอกกับลูกว่าสิ้นเดือนนี้ จะซื้อให้ แต่อยู่ๆ ลูกก็มาผูกคอเสียก่อน โดยสาเหตุมาจากความเสียใจที่ถูกแก๊งมิจฉาชีพลอกให้โอนเงิน เนื่องจากมีหลักฐานในโทรศัพท์มือถือของลูก ที่มีการแช็ตกับเพื่อนที่สนิทกัน วันเกิดเหตุคือวันเสาร์ที่ 14 ต.ค. ลูกได้โอนเงิน ให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ครั้งละ 5,500 บาท ถึง 3 ครั้ง แต่ทางแก๊งมิจฉาชีพ ใช้ให้โอนอีก แต่ลูกสาวก็บอกว่าไม่มีเงินแล้ว ไม่เอาแล้วโทรศัพท์ จะขอเงินคืนทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์บอกว่ามันเข้าระบบไปแล้วให้โอนมาอีก 2,000 และขอหมายเลขบัญชีธนาคารเพื่อที่จะคืนเงินให้ ลูกจึงโอนไปเพิ่มอีก 2,000 บาท หลังจากนั้นมิจฉาชีพพวกนี้ได้ปิดมือถือหลบหนี ลูกรู้ตัวว่าถูกหลอก จึงได้ไปบอกกับเพื่อนว่าเสียใจที่เอาเงินเงินกู้การศึกษามาใช้จ่ายและโดนหลอก ขอลาเพื่อนเพื่อน ก่อนที่จะตัดสินใจผูกคอตาย อยากฝากเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับทุกครอบครัว ไม่นึกว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้กับครอบครัวของตัวเอง วันนี้อยากจะให้เจ้าหน้าที่ของบ้านเมือง หรือผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองได้ดำเนินการกับแก๊งนี้ให้หมดสิ้น พื่อที่จะไม่ได้มีเด็กตกเป็นเหยื่อของแก๊งพวกนี้ต่อไป

ขณะที่ พ.ต.ท.สวัสดิ์ นิยมเดชา สารวัตรหัวหน้า สภ.เกาะทวด จ.นครศรีธรรมราช ได้ทำการสืบสวนอย่างละเอียดพบข้อมูลที่เชื่อมโยงแล้ว โดยมีเพจร้านชื่อว่า Hannah shop mobile ตั้งอยู่ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และพบบัญชีม้าปลายทางเป็นธนาคาร CIMB เป็นบัญชีรับเงินจากบัญชีของผู้ตายจำนวน 4 ครั้ง มีชื่อบัญชีม้าเป็นหญิง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ติดตามแล้ว พร้อมทั้งแจ้งอายัดไปทางธนาคารแล้วด้วย ส่วนการตรวจสอบข้อมูลในขณะนี้ พบว่าร้านโทรศัพท์ตามชื่อที่ปรากฏในเพจนั้น ไม่ปรากฏมีอยู่จริงในพื้นที่เชียงราย ส่วนการสืบสวนทางเทคโนโลยีขณะนี้ทางตำรวจไซเบอร์ได้ดำเนินการติดตามล่าตัวมาดำเนินคดีแล้ว

ล่าสุดเช้าวันนีั (18 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปที่บ้านหนองเชียงรอดใต้ หมู่ที่ 5 ตำบลทุ่งลุยลาย อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นบ้าน น.ส.ดอกแก้ว (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี เจ้าของบัญชีม้า พบว่าครอบครัวพ่อแม่ และ เจ้าตัวไม่อยู่บ้าน มีเพียงป้าที่อยู่ข้างบ้าน เล่าว่า ก่อนหน้านี้ 2-3 วันหลานของตนได้มาเอาเอกสารไปทำเกี่ยวกับเกมส์ ตนจึงบอกหลานของตนไม่อยากให้ทำพร้อมให้ลบออกจากโทรศัพท์ หลังจากนั้นทางหลานของตนก็ได้ลบออกไป

จนกระทั้งเวลา 11.20 น.ของวันนี้ (18 ต.ค.66) ทางด้าน พ.ต.อ.พงศ์สุข คงปัญโญ ผกก.สภ.คอนสาร จังหวัดชัยภูมิ ได้เชิญตัวเจ้าของบัญชีม้ามาสอบสวนพร้อมกับตำรวจไซเบอร์ เพื่อที่จะนำตัวไปทำการสอบสวนอย่างละเอียดที่กรุงเทพมหานคร

หลังจากนั้นได้สอบถามนางสาวดอกแก้ว เล่าว่า ในเบื้องต้นตนไม่ทราบเกี่ยวกับบัญชีหรือบัตรประชาชนที่หลุดออกไปเนื่องจากตนนั้นได้ไปสมัครงานในหลายพื้นที่แต่ตนก็ไม่ได้ทำงาน พร้อมยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมยังกล่าวอีกว่าตนนั้นทำงานกีดยาง ไม่เคยขายของออนไลน์แต่อย่างไร ด้านแม่ของเจ้าของบัญชีม้าเล่าว่า ลูกสาวของตนนั้นได้ทำงานอยู่ที่ไร่กรีดยางอยู่ตลอดเวลาไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวและไม่เคยเกี่ยวข้องอีกทั้งยังไม่เคยได้ไปเปิดบัญชีที่ธนาคารดังกล่าวซึ่งตนนั้นก็ไม่รู้จักด้วยซ้ำว่าเป็นบัญชีธนาคารอะไร อีกทั้งยังฝากให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดเพื่อขอความเป็นธรรมให้กับลูกสาวของตนอีกด้วย ซึ่งหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ ก็จะได้เชิญตัวไปสอบสวน ที่กองบังคับการตำรวจไซเบอร์กรุงเทพมหานครต่อไป