ใจชื้นขึ้นมาเปราะหนึ่ง หัวอกแม่ของตัวประกันชาว อ.บ้านดุง อุดรยิ้มได้ หวังจะเป็นข่าวดีลูกชายจะไม่ตายแล้ว หลังติดตามข่าวลูกชายนายลักกี้ทั้งคืนทั้งวัน วันนี้มีข่าวกลุ่มฮามาสจะปล่อยตัวประกัน 11 วัน แม่บอกเป็น 11 วันที่ทรมานคิดถึงหน้าลูกชาย ภาวนาขอให้เป็นจริง ขณะที่ทิว นครเพ็ญ หนุ่มอุดรร้องอยากกลับบ้านข้ามโลกถึงบ้านพร้อมๆ เพื่อนแล้ว เจ้าตัวบอกกลับบ้านถึงครอบครัวแล้ว ค่อยหาทางใหม

วันนี้ (17 ต.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีข่าวกลุ่มฮามาส ประกาศพร้อมปล่อยตัวผู้ที่ไม่ใช่ชาวอิสราเอลที่ถูกควบคุมตัวไว้ ล่าสุดวันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านผึ้ง ต.นาไหม อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวประกันที่เป็นแรงงานไทยคือนายมณี จิรชาติ โดยบรรยากาศที่บ้านของนายมณีพบเพียงนางบัวศรี จิรชาติ  ผู้เป็นแม่ ยังคงติดตามข่าวรอฟังข่าวลูกชายที่ถูกจับเป็นตัวประกันนาน 11 วันแล้ว โดยมีเพื่อนบ้านเดินทางมาให้กำลังใจและคอยติดตามข่าวไปด้วย

นางบัวศรี จิรชาติ อายุ 50 ปี แม่นายมณีหรือ “ลักกี้” เปิดเผยว่า 11 วันที่ทรมานใจรอฟังข่าวลูกชายที่ถูกจับเป็นตัวประกัน พอวันนี้ได้ยินข่าวว่าฮามาสจะปล่อยตัวประกัน เห็นข่าวแว็บแรก บอกตามตรงใจชื้นขึ้นมาเลย ดีใจขึ้นมาเปราะหนึ่ง ลูกชายจะไม่ตายแล้ว รู้สึกมีความหวังขึ้นมาทันที พอยิ้มได้ ตอนนี้อยากให้รัฐบาลช่วยเจรจาเร่งรัดช่วยตัวประกันออกมาโดยเร็วภายในวันนี้จะยิ่งดี เวลาผ่านมาแล้ว 11 วัน ยังมีความหวังลูกชายยังมีชีวิตอยู่ หลังจากที่ผ่านมาผู้เป็นพ่อและแม่นอนหลับๆตื่นๆ กินข้าวได้บ้างไม่ได้บ้าง หากได้เห็นหน้าลูกน้ำตาตนคงจะไหลออกมาโดยไม่มีคำบรรยาย เช้าวันนี้ตนก็ได้ไปหาที่พึ่งทางใจ ซึ่งทางหมอดูก็บอกว่าลักกี้ลูกชายยังปลอดภัยดี สำหรับแรงงานไทยชาวจ.อุดรธานี ที่ถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกัน มีทั้งหมด 5 คน ประกอบด้วย นายเกียรติศักดิ์ พาที ชาวอ.พิบูลย์รักษ์ นายมณี จิราชาติ ชาวอ.บ้านดุง นายอนุชา อ่างแก้ว ชาวอ.กุดจับ นายบุญถม พันธ์ฆ้อง ชาวอ.สร้างคอมและนายจักรพันธ์ สีเคนา ชาวอ.ศรีธาตุ

ขณะเดียวกัน นายทิว นครเพ็ญ หนุ่มอุดรที่ร้องข้ามโลกขอความช่วยเหลืออยากกลับบ้าน ตอนนี้เดินทางกลับถึงบ้านเกิดที่จ.อุดรธานีเรียบร้อยแล้วพร้อมกับเพื่อนแรงงานไทยจำนวน 130 คนที่เดินทางจากประเทศอิสราเอลกลับถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 16 ต.ค.66 ที่ผ่านมา โดยหนุ่มทิว นครเพ็ญ เมื่อกลับถึงบ้านก็ได้โพสต์บอกว่า พี่เอ๊ย ถึงเฮาสิบ่รวย กะซ่าง ขอแค่เฮามีชีวิต กลับบ้าน มาหาครอบครัว กะดีล่ะ ค่อยหาทางใหม่ ส่วนที่บ้านเลขที่ 178 หมู่ 1 ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี นายทรงวุฒิ ศรีสุนาครัว ปลัดอำเภอหนองหาน พร้อมด้วยพ.ต.สุเมธ คำพิมาน และกำนันผู้ใหญ่บ้าน เดินทางมาให้กำลังใจกับนายจักรี จันทะมาตร หรือ “ต่อ” อายุ 37 ปี หนุ่มอุดรที่เดินทางกลับถึงบ้านเมื่อเช้าวันนี้ โดยเจ้าตัวยิ้มได้หลังกลับถึงบ้าน หลังไปทำงานอิสราเอลได้ 3 ปีแต่ต้องเจอสมรภูมิสงคราม ขอกลับบ้านก่อน ตั้งหลักพักผ่อนค่อยว่ากันใหม่

นายจักรี เปิดเผยว่า ตนเองเดินทางไปทำงานเกษตรทางตอนกลางของอิสราเอลได้ 3 ปีแล้ว จุดที่อยู่ห่างจากฉนวนกาซาประมาณ 30 กม แม้จะไม่รุนแรงเหมือนภาคใต้แต่เราก็กลัวตายเพราะมีเสียงระเบิดตลอด กลัวจะลามมาถึงที่ทำงานอยู่ จึงขอกลับบ้านมาตั้งหลักก่อน จะกลับไปหรือไม่นั้นค่อยว่าอีกที

ส่วนนายสมป่าน จันทะมาตร อายุ 70 ปี พ่อของนายจักรี บอกว่า หลังมีข่าวสู้รบกัน พ่อและแม่นอนไม่หลับทุกวัน ห่วงลูกชาย นอนก็นอนไม่หลับ ยิ่งคนเป็นแม่บอกให้โทรหาลูกชายเรื่อยๆ พอดูข่าวสักระยะดูท่าสงครามไม่จบง่ายๆ ดูท่าไม่ดี รีบโทรไปหาลูกชายบอกว่ากลับมาบ้านเราก่อนได้ไหม เงินหาใหม่ได้ แต่ถ้าตายทำอะไรไม่ได้ แม้จะไม่ครบสัญญาให้กลับมาก่อน มาวันนี้เห็นลูกชาย บอกตรงๆ น้ำตาจะไหล พูดกับลูกจนเสียงสั่น  ลูกปลอดภัยกลับมา มีลูกชาย 3 คนคนนี้มีลูกชายคนสุดท้าย ดีใจมาก ส่วนลูกชายจะกลับไปทำงานที่เดิมหรือไม่นั้น ใจของคนเป็นพ่อก็ไม่อยากให้ไป แต่อย่างไรแล้วก็ขอให้ลูกชายเขาเป็นตัดสินใจเองแล้วกัน ขอขอบคุณทุกหน่วยงานราชการที่เอาใจใส่แรงงานไทยด้วยครับ วันนี้ลูกชายผมฮอดบ้านฮอดช่องแล้ว หัวอกคนเป็นพ่อสุดดีใจกล่าวขอบคุณตอนท้าย