เมื่อเวลา 18.30 น.ของวันที่ 17 ตุลาคม 2566 นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายไพฑูรย์ มหาชื่นใจ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร,นายบุญญกฤช ปิ่นประสงค์ สารวัตรกรมปศุสัตว์,ร้อยตรีประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร,นายสาโรจน์ จันทร์ลาด ปศุสัตว์จังหวัดสมุทรสาคร,เจ้าหน้าที่จากกรมประมง,เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ และตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.).ได้ร่วมกันแถลงผลการเข้าตรวจค้นบริษัท เจ.พี.ห้องเย็น จำกัด เลขที่ 59 หมู่ที่ 4 ตำบลโคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นสถานที่เก็บสินค้าเกษตร ประเภทเนื้อสัตว์จากต่างประเทศที่ไม่ได้รับอนุญาตให้นำเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยสินค้าที่ตรวจพบในครั้งนี้ก็มีทั้ง เนื้อกระบือ (ควาย) , เนื้อโค (วัว),เนื้อหมูสไลด์,และชิ้นส่วนไก่ (ขาไก่ / ปีกไก่) ซึ่งเบื้องต้นพบว่ามีการนำเข้ามาจากประเทศอินเดีย ตุรกี และ อาเจนตินา โดยเฉพาะเนื้อกระบือ กับ เนื้อวัว ถูกนำเข้ามาจากประเทศอินเดีย ส่วนเนื้อหมูสไลด์ กับ ชิ้นส่วนไก่นั้น จากข้อมูลเชื่อได้ว่าถูกนำเข้ามาจากประเทศตุรกี หรืออาเจนติน่า โดยสินค้าหรือเนื้อสัตว์ที่ตรวจพบทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นสินค้าเกษตร ประเภทเนื้อสัตว์จากต่างประเทศที่ไม่ได้รับการอนุญาตให้นำเข้ามาในประเทศไทยอย่างเด็ดขาด
นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า วันนี้ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายใต้คำสั่งการของนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์ สนธิความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกาศสงครามกับผู้ที่ลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรที่ผิดกฎหมาย หรือสินค้าเกษตรที่ไม่ได้รับอนุญาตให้นำเข้ามาในประเทศไทย ทั้งพืช ผัก ผลไม้ รวมไปถึงสินค้าประมงด้วย เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำให้แก่พี่น้องเกษตรกรชาวไทย เพราะหากสินค้าเหล่านี้ถูกนำออกมาจำหน่ายก็จะเกิดการแทรกแซงกลไกการตลาด ส่งผลทำให้ราคาของผลผลิตทางการเกษตรของพี่น้องคนไทยตกต่ำลง เนื่องจากสินค้าที่นำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาตเหล่านี้มีราคาที่ถูกกว่านั่นเอง ดังนั้นเพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์และรายได้ให้แก่พี่น้องเกษตรกรทุกประเภท รวมถึงสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นนั้น ทางรัฐบาลจึงได้มีการประกาศสงครามกับสินค้าเกษตรและสินค้าประมงทุกประเภท ที่มีการลักลอบนำเข้ามาในประเทศไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งก็ได้ออกปฏิบัติการในทั่วทุกจังหวัด
ขณะที่ในส่วนของจังหวัดสมุทรสาครนั้น วันนี้ (17 ต.ค.) ได้เข้าตรวจค้นพร้อมกัน 21 แห่งในพื้นที่เป้าหมายทั้งหมดกว่า 140 แห่ง โดยพบสินค้าที่กรมปศุสัตว์และกรมประมง ไม่อนุญาตให้นำเข้ามาในประเทศไทย ถูกเก็บไว้ในสถานประกอบการ (ห้องเย็น) 5 แห่ง มีน้ำหนักรวมทั้งสิ้น 639 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 80 ล้านบาท ซึ่งของกลางทั้งหมดนั้นก็ได้สั่งอายัดไว้เพื่อให้มีการตรวจสอบและจะให้ทางผู้ประกอบการห้องเย็น ได้นำหลักฐานมาแสดงเพื่อพิสูจน์ว่ามีการนำเข้ามาจากต้นสังกัดที่ไหน โดยถ้าเกิดว่าทางผู้ที่เป็นเจ้าของห้องเย็นสามารถสำแดงเอกสารอันเป็นข้อเท็จจริงได้ว่า ไม่ใช่เจ้าของสินค้าดังกล่าว หรือว่าเป็นเพียงแค่ผู้รับฝากเท่านั้นเอง และไม่มีความผิดฐานอื่นๆ ร่วมด้วย ทางเจ้าหน้าที่ก็จะได้ดำเนินการขยายผลไปสู่ผู้ที่นำเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรซึ่งรัฐบาลไทยไม่อนุญาตให้นำเข้ามาในประเทศไทย มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป