สทนช. ระดมภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน ร่วมเสวนา “ผ่าทางรอดประเทศไทย จับมือฝ่าวิกฤติภัย เอลนิโญ” ชูแผนระยะสั้น-ยาว รับมือภัยแล้ง จับมือหน่วยงานภาคีทำ MOU อนุรักษ์ฟื้นฟูระบบนิเวศและการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินแบบบูรณาการ ภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี พร้อมรณรงค์ประหยัดน้ำ ผ่านการประกวดสื่อสร้างสรรค์
วันที่ 17 ต.ค.66 ดร.สุรสีห์ กิติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า ในเดือนพฤศจิกายน ที่จะถึงนี้ สทนช. เตรียมจัดกิจกรรมใหญ่เกี่ยวกับการบูรณาการสื่อสารแผนบริหารทรัพยากรน้ำ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือสถานการณ์เอลนิโญ โดยกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย 4 ส่วนหลัก ได้แก่
1.การเสวนา หัวข้อ “ผ่าทางรอดประเทศไทย จับมือฝ่าวิกฤติภัย “เอลนีโญ” ถือเป็นไฮไลท์ของงานที่ไม่ควรพลาด ผู้ร่วมเสวนา ประกอบด้วย 1.อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาหรือผู้แทน มาบอกเล่าถึงสถานการณ์เอลนีโญในช่วงที่ผ่านมา และการคาดการณ์ในอนาคต รวมถึงแนวโน้มฝนในปีหน้า / 2.เลขาธิการ สทนช. ร่วมประเมินสถานการณ์เอลนีโญที่จะเกิดขึ้น พร้อมคาดการณ์ระดับความรุนแรง และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งบอกเล่าบทบาทของ สทนช.ที่ต้องบูรณาการทุกภาคส่วน ในการเตรียมการรองรับสถานการณ์ที่คาดการณ์ไว้ / 3. ผู้แทนภาคอุตสาหกรรม มาร่วมแลกเปลี่ยนถึงการเตรียมพร้อมของภาคอุตสาหกรรม และบอกเล่าถึงการเตรียมพร้อมหากเกิดสถานการณ์ขาดแคลนน้ำในระบบอุตสาหกรรม / 4.ผู้แทนภาคเกษตรกรรม ร่วมพูดคุยถึงการเตรียมการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ และการปรับตัวทางอาชีพของเกษตรกรให้สอดคล้องกับสถานการณ์ / 5.ผู้แทนสื่อมวลชน บอกเล่าถึงการมีส่วนร่วมในการรับมือกับสถานการณ์ พร้อมแนะนำแนวทางจัดการกับข่าวลวง (fake news) และการสร้างสถานการณ์ในสื่อสังคมออนไลน์
2.การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU หัวข้อ “การอนุรักษ์ ฟื้นฟูระบบนิเวศ และการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินแบบบูรณาการ ภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี” ระหว่าง สทนช. กับ กรมพัฒนาที่ดิน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ กรมทรัพยากรธรณี และกรมทรัพยากรน้ำ โดยการทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อบูรณาการข้อมูลทางวิชาการ เทคโนโลยี นวัตกรรม เครื่องจักร เครื่องมือ รวมถึงบุคลากรแต่ละหน่วยงาน เพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพการอนุรักษ์ และฟื้นฟูระบบนิเวศ รวมทั้งขับเคลื่อนแผนบูรณการเชิงพื้นที่ระดับลุ่มน้ำ ให้สอดคล้องกับเป้าหมายการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี
3.การจัดแสดงนิทรรศการ เกี่ยวกับแผนบูรณาการบริหารทรัพยากรน้ำ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์เอลนิโญ่ โดยมีทั้งนิทรรศการแสดงผลงานและมาตรการต่างๆ ของ สทนช. ภาคีเครือข่าย รวมทั้งแนวทางการลงนามข้อตกลงความร่วมมือ MOU “การอนุรักษ์ ฟื้นฟูระบบนิเวศ และการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินแบบบูรณาการ”
4.การมอบรางวัลผู้ชนะการประกวดคลิปสั้น และ Tik tok รณรงค์ประหยัดน้ำ เพื่อกระตุ้นให้พี่น้องประชาชนรู้จักใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า และตระหนักถึงภัยแล้งที่อาจเกิดขึ้นจากปรากฏการณ์เอลนิโญ
ทั้งนี้ เลขาธิการ สทนช. กล่าวเพิ่มเติมในช่วงท้ายว่า การรณรงค์ประหยัดน้ำเป็นสิ่งที่ต้องเน้นย้ำกันอยู่เสมอ เพราะการประหยัดน้ำ ไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง หรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง เนื่องจากปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก (Climate Change) หรือสภาวะโลกร้อน ทำให้โอกาสการเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญาเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลกระทบต่อทั่วโลกและประเทศไทย และมีแนวโน้มจะรุนแรงขึ้น ปัญหาการขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภคและบริโภคในอนาคตจึงอาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้น การเตรียมพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนจึงเป็นสิ่งจำเป็น และการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าเป็นสิ่งที่ประชาชนทุกคนสามารถให้ความร่วมมือได้ โดยเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ ใกล้ตัวในชีวิตประจำวัน เพื่อให้กลายเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ สร้างความเปลี่ยนแปลงในการอนุรักษ์และรักษาทรัพยากรน้ำของประเทศและของโลก ให้มีน้ำสะอาดเหลือใช้อย่างเพียงพอ และยั่งยืนต่อไปในอนาคต