มาโน โพลกิง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวว่า เอสโตเนียเป็นทีมที่ดี และเล่นได้ดีในเกมที่ผ่านมา ตามที่เราวิเคราะห์มา แม้ผลอาจจะออกมาไม่ดี แต่สำหรับเรา เราโฟกัสไปที่การแก้ไขจุดบกพร่องของเรา และพยายามทำผลงานให้ได้ดีในเกมนี้

"ทั้งจอร์เจีย และ เอสโตเนีย ต่างมีความแข็งแกร่ง โดยเฉพาะเรื่องร่างกายที่เหนือกว่าทีมของเราอย่างชัดเจน เราเองก็พยายามเน้นกับนักเตะในทีม ให้เล่นตามที่เราถนัด คือการครองบอลให้ได้ดี และไม่เสียบอลง่ายๆ อากาศก็เป็นปัจจัยหนึ่ง เราพยายามปรับตัวให้เข้ากับอากาศที่หนาวเย็นที่นี่ให้ได้ดีกว่าเดิม ที่นี่หนาวกว่าที่จอร์เจีย แต่เราก็พยายามปรับตัวให้ได้ และเล่นฟุตบอลตามที่เราถนัดให้ได้ มั่นใจว่าเราจะทำผลงานได้ดีกว่าเกมที่แล้ว"

"หลังจากที่เราได้วิเคราะห์จากเกมที่เราเล่นนัดก่อน รวมถึงเอสโตเนีย เกมนี้ก็น่าจะการเปลี่ยนแผนในการเล่น ต้องรอดูในเกมนี้ ทุกคนพร้อมที่จะทำผลงานให้เต็มที่ และทำให้ได้ดี ไม่ว่าใครจะได้ลงสนามก็ตาม ก่อนหน้านี้เรามีนักเตะเล่นในต่างประเทศหลายคน ทั้ง ธีรศิลป์ แดงดา ที่เคยไปสเปน และตอนนี้ก็มี ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ที่เล่นในเบลเยียม ก็หวังว่าเขาจะทำผลงานได้ดี นอกจากนี้ยังมีนักเตะไปเล่นเจลีก ก่อนหน้านี้และตอนนี้ ก็เป็นเรื่องดีสำหรับนักเตะไทย ที่ได้ไปเล่นอีกก้าวหนึ่งในต่างแดน ในเรื่องวัฒนธรรมต้องปรับตัว แต่ก็ช่วยให้เรามีนักเตะที่กลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิม เราพยายามปรับตัวกับสภาพอากาศ พออยู่มาหลายวัน ก็ค่อยๆปรับตัวได้ดีขึ้น แต่ยังเป็นสภาพอากาศที่หนาวสำหรับนักเตะของไทย"

ด้าน กฤษดา กาแมน กัปตันทีมชาติไทย กล่าวว่า สิ่งที่เราต้องแก้ไขอย่างแรก คือเราไม่ได้อยู่ในฟอร์มของตัวเอง ที่แพ้มาแล้วเป็นเรื่องที่ดีอย่างหนึ่ง ที่ทำให้เรารู้ว่าเราห่างจากทีมยุโรปมากแค่ไหน และจะต้องทำอย่างไรเพื่อลดช่องว่างตรงนี้ให้ได้

"เอสโตเนียมีนักเตะที่มีคุณภาพอยู่แล้ว นักเตะส่วนมากเราไม่ค่อยรู้จัก แต่ก็มี เฮนรี อานิเยร์ ที่เคยเล่นกับเมืองทอง ยูไนเต็ด สำหรับเกมนี้น่าจะเป็นเกมที่สนุก ได้มาเล่นฟุตบอลที่นี่ ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาว ก็ไม่เหมือนบ้านเรา แต่ก็สบายดี อาจจะเหนื่อยยากเล็กน้อย"

สำหรับโปรแกรมนัดต่อไปของฟุตบอลชายทีมชาติไทย จะพบกับ เอสโตเนีย ณ อา เลอ ค็อก อารีนา วันที่ 17 ตุลาคม 2566 เวลา 23.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐทีวีช่อง 32