ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ต.ค.2566 เวลา 20.45 น.ที่บ้าน หมู่ 11 บ้านหนองคูเหนือ ต.โพนยาง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ นายอานนท์ หนุนชู นายอำเภอวังหิน พร้อมด้วย ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวศรีสะเกษ ที่ปรึกษาแรงงานภาคประชาสังคม พ.ต.อ.ปรีชา สารถี ผกก.สภ.วังหิน นายสุริยะ สำเภา กำนันตำบลโพนยาง นาย สมชาย ศรีทา นายก อบต.โพนยาง และคณะ ได้นำชาวบ้านหนองคูเหนือ มารอให้การต้อนรับ นายธนาชัย อายุ 32 ปี ชาวบ้านหนองคูเหนือที่ไปทำงานด้านการเกษตรอยู่ที่ประเทศอิสราเอล
ซึ่งนายธนาชัย ได้ซื้อตั๋วเครื่องบินด้วยตนเองไม่รอการช่วยเหลือจากรัฐบาลไทยที่จัดส่งเครื่องบินไปรับ และมีกำหนดจะเดินทางกลับมาถึงบ้านในวันนี้ โดยมี นายวิชัย เลิศภัทรนันท์ แรงงานจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นางทัศนี ขจัดมลทิน จัดหางานจังหวัด นายชัยรัตน์ ฉัตรศุภกุล ผอ.สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 38 ผู้แทนสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ผู้แทนประกันสังคมจังหวัด ได้นำพ่อแม่และตายายไปรอต้อนรับ นายธนาชัย ที่สนามบินอุบลราชธานี เพื่อรับนายธนาชัยเดินทางกลับมาบ้านเกิดที่บ้านหนองคูเหนือ ต.โพนยาง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ
หลังจากที่ทุกคนได้รอคอยจนถึงเวลาประมาณสองทุ่มกว่า รถตู้ราชการของกระทรวงแรงงาน นำโดยนายวิชัย เลิศภัทรนันท์ แรงงานจังหวัด ศรีสะเกษ ก็ได้จอดที่บ้านดังกล่าว มีนายธนาชัย ก้าวลงจากรถตู้ ญาติพี่น้องพากันกรูเข้าไปสวมกอดเพื่อให้การต้อนรับนายธนาชัย อย่างอบอุ่น ที่รอดตายจากสงครามและเดินทางกลับมาถึงบ้านอย่างปลอดภัย
โดย นายธนาชัย ได้เดินเข้าไปก้มลงกราบเท้าของ นายสดชัย อายุ 55 ปี และนางทองอินทร์ อายุ 50 ปี พ่อและแม่ของนายธนาชัย ซึ่งได้สวมกอดนายธนาชัย ด้วยความรักและห่วงใย จากนั้น พ่อแม่ญาติพี่น้องและคณะทุกคนได้นำเอาด้ายมาผูกแขนเพื่อเป็นการต้อนรับกลับสู่บ้านเกิด บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่นมาก ขณะที่
ด้าน ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวศรีสะเกษ ที่ปรึกษาแรงงานภาคประชาสังคม พร้อมด้วยทีม หน.ส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงาน ก็ได้เข้าไปชี้แจงให้นายธนาชัย ได้ทราบถึงสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับจากกระทรวงแรงงาน เนื่องจากว่า นายธนาชัย ไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ทั้งนี้ นายธนาชัย กล่าวว่า ตนไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค.2561 ไปทำงานแล้ว 4 ปีกับอีก 10 เดือน อีกเพียง 5 เดือนก็จะครบตามสัญญา ตนเป็นแรงงานไทยชาวศรีสะเกษคนแรกที่กลับมาถึงบ้านเกิด ทำให้ตนรู้สึกดีใจมากที่เอาสามารถเอาชีวิตรอดมาได้ ปกติแล้ววันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ตนจะเดินทางไปเที่ยวกับพี่เพื่อนใกล้กับฉนวนกาซา แต่ว่าในวันนั้นนายจ้างสั่งให้ตนมาทำงานในวันเสาร์ซึ่งเป็นวันที่เกิดเหตุการณ์สู้รบพอดีจึงไม่ได้ลงไปกับเพื่อนแรงงานคนอื่นๆทำให้ตนโชคดีไม่ได้เข้าไปบริเวณที่มีการสู้รบ การที่ตนซื้อตั๋วเครื่องบินกลับมาเองนั้นก็เนื่องจากว่า ดูสถานการณ์สู้รบแล้วน่าจะไม่ยุติง่าย เพราะว่าข่าวในประเทศไทยก็ออกตลอดทำให้ทางบ้านเป็นห่วงมาก
สำหรับข่าวที่ออกไปตนเห็นว่าคนไทยน่าจะเสียชีวิตมากกว่านี้อาจจะค้นหายังไม่เจอก็มีเพราะว่าหายไปแบบติดต่อไม่ได้ก็มี ตนซื้อตั๋วเครื่องบินจำนวนเงิน 37,500 บาท หากสงครามอิสราเอลสงบแล้วตนจะไม่กลับไปทำงานอีกอย่างเด็ดขาดเพราะว่าพื้นที่ที่ตนอยู่เสี่ยงมาก ต่อไปภัยการสู้รบอาจจะมาถึงพื้นที่ที่ตนอยู่ได้เพราะว่าการสู้รบใกล้จะมาถึง.ที่ตนทำงานอยู่แล้ว โชคดีที่ทหารตำรวจของอิสราเอลสกัดเอาไว้ได้
นายธนาชัย กล่าวต่อไปว่า ตนไปทำงานอยู่ที่บริเวณเมืองเนติวู๊ด ซึ่งหากว่าไม่มีทหารตำรวจของอิสราเอลไปสกัดไว้การสู้รบก็จะถึงแคมป์ของตน แคมป์ที่อยู่ข้างหน้าของตนก็โดนกลุ่มฮามาสบุกเข้ามาไล่ยิงหมดแล้ว ไล่ยิง โดยไม่เลือกว่าเป็นใครชาติไหนกลุ่มฮามาสที่บุกเข้ามาจะยิงทิ้งหมด คนไทยที่อยู่ในแคมป์ด้วยกันก็ขวัญเสียหมดแล้วต้องการกลับบ้านมาก แต่ว่าบางคนก็ไม่อยากกลับบ้านเนื่องจากว่าจะต้องหาเงินไปส่งงวด ค่างวดรถ ค่าบ้านและเป็นเสาหลักในการทำมาหาเลี้ยงครอบครัวซึ่งหากกลับมาประเทศไทยก็ไม่รู้ว่าจะไปหางานอะไรทำ เอาอะไรกิน ไม่มีงานทำ รายได้ก็อาจจะไม่เยอะเท่ากับทำงานอยู่ที่ประเทศอิสราเอล
ตนขอฝากไปถึงรัฐบาลว่า ขอให้การช่วยเหลือเร็วกว่านี้ด้วย ให้ช่วยเหลือประชาชนชาวไทยที่อยู่ตรงนั้นให้รีบออกมาเร็วกว่านี้ เนื่องจากแรงงานจำนวนมากไปลงทะเบียนแล้ว ไม่ทราบว่า จะได้บินกลับประเทศไทยวันไหน รัฐบาลจะมารับวันไหน แล้วจะเช็คชื่อตรงไหนมีการประกาศจำนวนออกมาว่า 4 – 5 พันคนลงทะเบียนอยู่ลำดับไหนก็ยังไม่รู้ ทุกคนต้องการเป็นแบบเรียลไทม์พอกดลิงค์เข้าไปจะสามารถรู้ได้ทันทีว่าชื่อ เลขประชาชนเราขึ้นลำดับใดขึ้นมา ซึ่งแรงานไทยต้องการอยากรู้แบบนั้น เพียงแค่รู้ว่าแรงงานไทย 4-5 พันคนอยากเดินทางกลับไทย แล้วจะตรวจเช็คยังไงว่าจะได้เดินทางกลับวันไหนอยู่ลำดับที่เท่าไร จึงขอฝากรัฐบาลไทย และต้องขอขอบคุณรัฐบาลไทยที่พยายามประสานงานช่วยเหลือในเรื่องนี้
ขณะที่ นางทองอินทร์ แม่ของนายธนาชัย กล่าวว่า ตนดีใจมากที่ลูกชายสามารถเดินทางกลับมาบ้านเกิดได้อย่างปลอดภัย ช่วงเกิดการสู้รบกันที่ประเทศอิสราเอล ตนกินไม่ได้นอนไม่หลับ เนื่องจากเป็นห่วงความปลอดภัยของลูกชาย หากแม้ว่าการสู้รบที่ประเทศอิสราเอลสงบลงแล้ว ตนก็จะไม่ให้ลูกชายกลับไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลอีกต่อไป ทำมาหากินอยู่ที่บ้านเราเองปลอดภัยกว่า
นางทัศนี ขจัดมลทิน จัดหางานจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ในส่วนของนายธนาชัยนั้นได้เดินทางกลับจากประเทศอิสราเอลมาประเทศไทยก่อนสิ้นสุดสัญญา ก็จะมีสิทธิประโยชน์จากกองทุนบริหารแรงงานต่างประเทศของกรมการจัดหางาน ในเบื้องต้นจะได้เงินช่วยเหลือฉุกเฉินจำนวน 15,000 บาท สามารถที่จะยื่นติดต่อขอรับเงินได้ที่จัดหางานจังหวัดศรีสะเกษได้เลย ซึ่งในวันนี้ทางจัดหางานจังหวัดศรีสะเกษก็ได้นำเอาเอกสารมาให้ นายธนาชัยได้กรอกข้อมูลและพร้อมที่จะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้เร็วที่สุดเพราะว่าก่อนหน้านี้ก็ได้ลงมาสัมภาษณ์เพื่อเก็บข้อมูลจากพ่อแม่ของนายธนาชัยเอาไว้แล้ว
ส่วน นายวิชัย ภัทรนันท์ แรงงานจังหวัดศรีสะเกษกล่าวว่า ส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงาน จ.ศรีสะเกษ โดยการอำนวยการของ นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผวจ.ศรีสะเกษ ท่านมีความ ห่วงใยมาก จึงได้มอบหมายให้ส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงานเข้ามาดูแลในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ และการที่นายธนาชัย ได้ซื้อตั๋วเครื่องบินเดินทาง จากประเทศอิสราเอล กลับมาเองนั้น มีสิทธิที่จะได้รับก็คือจะสามารถเบิกค่าตั๋วเครื่องบินคืนได้ รวมทั้งค่าเดินทางที่เดินทางมาจากสนามบินสุวรรณภูมิมาถึงอุบลราชธานี ขอให้เก็บหลักฐานการเดินทางบอร์ดดิ้งพาสและตั๋วเครื่องบินไว้ให้ดี เพื่อประกอบการเบิก จะได้ขอเงินคืนได้
ในวันนี้ผวจ.ศรีสะเกษได้มอบหมายให้ทางกระทรวงแรงงานจัดรถตู้ไปรับที่สนามบิน จ.อุบลราชธานีและนำมาส่งที่บ้านเกิด อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษจึงไม่มีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในส่วนนี้ หากมีปัญหาเรื่องการทำงาน ในระหว่างอยู่บ้านขอ ให้ประสานมาที่แรงงานจังหวัดจะได้หารือส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง การช่วยเหลือในการอบรมทักษะในระหว่างที่รองาน