เมื่อวันที่ 16 ต.ค.66 พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ศรภ. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ ระบุว่า...

เพื่อไทยสู้ตายเรื่องเงินดิจิตอล 1 หมื่นบาท จะตายสมใจไหม

เมื่อวันนี้ของเดือนที่แล้ว ผมเขียนทักท้วงเรื่องแจกเงินของคุณเศรษฐา ว่าน่าจะผิดพลาด เหมือนกับนโยบายจำนำข้าวของ

คุณยิ่งลักษณ์

ซึ่งตอนนี้หลายคนก็ออกมาคัดค้านมากขึ้น ล้วนแต่เป็นมือเศรษฐกิจระดับสากลเป็นส่วนใหญ่ แต่ทางพรรคเพื่อไทย “ ก็ยังแน่วแน่ไม่ยอมแก้ไข..“ ลองมาดูว่า เวลาหนึ่งเดือนกว่า รัฐบาลทำอะไรไปบ้าง ที่ทำให้เราไม่ค่อยแน่ใจว่า “รัฐบาลจะทำในสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่” ในเวลาข้างหน้านี้ เช่น

เสนอคุณพิชิต ทนายความคุณทักษิณ ขึ้นมาเป็น รมต. เรื่องนี้ไม่น่า

จะเสนอเลย

ประชุม ครม.นัดแรก เสนอให้แบ่งการจ่ายเงินเดือนออกเป็น 2 งวด

เรื่องนี้ช็อกทั้งวงการข้าราชการ คิดออกมาได้อย่างไร

เมื่อเกิดเหตุการณ์รุนแรงระหว่าง อิสราเอล-ฮามาส ขึ้น คุณเศรษฐา ได้ออกมาแสดงจุดยืนสนับสนุนอิสราเอลทันที คราวนี้ผมช็อกเองเลย นึกสงสารคนไทยที่โดนจับไปเป็นตัวประกัน พาลทำให้ความคิดในทางที่ดีต่อคุณเศรษฐา ตอนเข้าไปพบลุงตู่จืดจางไปเกือบหมด

แต่ก็ยังเฉยๆอยู่ จนวันนี้เห็นท่านไปถ่ายรูปและพูดคุยกับประชาชนที่มาต้อนรับพร้อมป้ายสนับสนุนการแจกเงิน โดยพูดจาอย่างหนักแน่น ราวกับการปราศรัยปลุกระดม เรื่องการแจกเงิน ก็ทำให้นึกห่วงประเทศชาติขึ้นมาอีก

การตอบคำถามเรื่องเงินดิจิตอลของพรรคเพื่อไทย ก็ไม่ตรงกับที่คนอยากรู้(ไม่ได้หมายถึงคนที่อยากได้นะครับ) และยังเพิ่มข้อสงสัยไปอีกว่า หนี้สินค่าจำนำข้าวยังจะใช้หนี้ต่อไปไหม เงินสบทบประกันสังคมจะส่งให้กองทุนต่อไปอีกหรือเปล่า เงินสวัสดิการต่างๆที่รัฐบาลลุงตู่เคยแจกอยู่จะแจกต่อไปอีกหรือไม่ ฯลฯ

นอกจากนั้นผลงานเก่าๆในรัฐบาลเก่าๆของพรรคเพื่อไทย ยังตามหลอกหลอนผมอยู่ เช่น จำนำข้าว แจกแท็ปเล็ต รถคันแรก ฯลฯ แล้วยิ่งมานั่งฟังคุณจตุพร พูดเรื่องเก่าๆของพรรคเพื่อไทยแล้วยิ่งใจไม่ดี มากขึ้นครับ ทบทวนเถอะครับ