แรงงานไทยล็อตสาม 90 คน กลับสู่มาตุภูมิอย่างปลอดภัย ท่ามกลางญาติและครอบครัวมารอรับโผกอดร่ำไห้ด้วยความดีใจ เผยนาทีเฉียดตาย บึ้มคร่าชีวิตเพื่อนต่อหน้าต่อตา พิพัฒน์เผยยอดคนไทยเสียชีวิตเพิ่มรวม 28 ราย เตรียมหาเที่ยวบินเพิ่มขนคนไทย เร่งอพยพกว่า 7 พันราย กลับประเทศภายในต้นเดือนหน้า
ที่ท่าอากาศยานนาตาชาติอู่ตะเภา ระยอง-พัทยา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เมื่อวันที่ 15 ต.ค.66 พล.ร.อ.สิทธิชัย ต่างใจ ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานอู่ตะเภา พร้อมด้วย พล.ร.ต. เดือน พร้อมมณี ผู้บัญชาการกองการบินทหารเรือ, นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผวจ.ระยอง ,นายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล ,นายสืบหมื่น โพธิ์สิน รองอธิบดีกรมจุดหางาน และพล.ต.ต.พงษ์พันธ์ วงศ์มณีเทศ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ได้เดินทางมาอำนวยความสะดวกและใหัการต้อนรับกับคนไทย 90 คน ที่เดินทางกลับจากประเทศอิสราเอล โดยสายการบิน Fly Dubai เที่ยวบิน FZ8991
หลังจากเครื่องบินลงสู่สนามบินอู่ตะเภา คนไทยทั้ง 90 คน ผ่านการตรวจสอบคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน ที่ถูกสะเก็ดระเบิดที่ขา เจ้าหน้าที่จึงพาตัวไปรับการรักษาทันที ส่วนที่เหลือได้มีการเตรียมรถบัส 3 คัน ส่งคนไทยทั้งหมดไปพักผ่อนที่ โรงแรม SC PARK เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ เพื่อรอให้ญาติพี่น้องมารับกลับภูมิลำเนาต่อไป
พล.ร.อ.สิทธิชัย ต่างใจ ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานอู่ตะเภา เปิดเผยว่า วันนี้ได้รับมอบหมายจาก พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ ให้มาต้อนรับพี่น้องคนไทย 90 คน เป็นผู้ชาย 88 คน ผู้หญิง 2 คน มีผู้ได้รับบาดเจ็บกลับจากประเทศอิสราเอล 2 ราย โดยมีการอำนวยความสะดวกไว้ครบครัน ทั้งอาหารเช้ามื้อแรกบนแผ่นดินไทย
นายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล กล่าวว่า สำหรับพี่น้องชาวไทยที่ยังคงรอการกลับบ้าน โดยส่วนใหญ่พักอยู่ที่ศูนย์พักคอยที่มีความปลอดภัย ซึ่งทางรัฐบาลจะทยอยพากลับมาจนครบทุกคนที่ต้องการกลับ
ด้าน นายวีรยุทธ ปัญญาประชุม อายุ 35 ปี หนึ่งในคนไทยที่เดินทางกลับมาในวันนี้ เปิดเผยว่า เมื่อมาถึงไทยแล้วก็เตรียมเดินทางกลับบ้านที่จ.ชลบุรี ตนรู้สึกดีใจมากที่รอดชีวิตกลับมาได้ ซึ่งเกือบไม่ได้กลับ หลังจากที่ระเบิดตกลงมาในสวนที่ทำงานอยู่ เป็นเหตุให้เพื่อนร่วมงานเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย เห็นเพื่อนตายไปต่อหน้า เพราะอยู่ห่างกันแค่ 10 เมตร ตนต้องหมอบคลานหนีตาย โชคดีที่รอดชีวิตมาได้ ซึ่งเพิ่งไปทำงานเพียง 1 ปี คงไม่กลับไปอีกหากสถานการณ์ยังตึงเครียดแบบนี้ ขอให้รัฐบาลเร่งอพยพคนไทยกลับประเทศโดยเร็ว เพราะทุกคนต่างเสียขวัญ และ เครียดกับการรอกลับบ้านเกิด
นายไชยะ บุญสังข์ อายุ 39 ปี อาชีพเกษตรกร กล่าวขอบคุณประเทศไทยที่ได้ให้การช่วยเหลือนำกลับคืนสู่บ้านเกิดอย่างปลอดภัย และรวดเร็วอย่างมาก ระหว่างที่เกิดสงครามขึ้น รู้สึกตกใจหวาดกลัวอย่างมาก เพราะเป็นครั้งแรกในชีวิต สิ่งแรกที่คิดในเวลาคืออยากมีชีวิตรอดกลับบ้าน คิดถึงทุกคนคนในครอบครัว ในวันนี้ รัฐบาลไทย ได้ทำความฝันนั้นเป็นความจริง รู้สึกปลาบปลื้มใจอย่างสุดซึ้ง และขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมา ณ โอกาส
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการเดินทางกลับของ 90 คนไทย ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากหน่วยงานไทยและครอบครัวที่เข้าสวมกอดลูกชายและคนที่รักพร้อมร่ำไห้เมื่อพวกเขาเดินทางมาถึง อาทิครอบครัว น.ส.อำไพ พึ่งกลั่น อายุ 56 ปี แม่ของนายไชยะ บุญสังข์ หรือเอก อายุ 39 ปี แรงงานไทยประกอบอาชีพเกษตรกรรม ปลูกถั่ว ปลูกมัน โดยเดินทางไปอย่างถูกกฎหมายตั้งแต่ปี 2565 เดือนส.ค. มีสัญญา 5 ปี ภูมิลำเนาเป็นชาวจ.ชลบุรี โดย น.ส.อำไพ เปิดเผยว่า หลังรับตัวลูกชายวันนี้จะพากันกลับไปบ้านที่ กทม. แถวเขตสวนหลวงก่อน เพราะบุตรชายมีภรรยาซึ่งเป็นไข้รออยู่ที่นั่น โดยตนได้ลำดับที่ 86 พร้อมยืนยันว่าคิดถึงลูกชายและห่วงใยอยากสวมกอดลูกมากๆ
ที่โรงแรมเอสซี ปาร์ค เวลา 10.05 น. รถบัส 3 คัน ที่รับแรงงานไทยในอิสราเอลจากสนามบินอู่ตะเภารวม 90 คน ได้เดินทางมาถึง โดยมีญาติมารอรับตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งทางโรงแรมได้เตรียมชั้น 6 ของโรงแรมรองรับ ขณะเดียวกัน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ,พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ,นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.ต่างประเทศ ,นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรัฐบาลมารอต้อนรับ พร้อมพูดคุยให้กำลังใจรวมถึงยืนยันแนวทางในการช่วยเหลือคนไทยอย่างเต็มกำลัง
ทันทีที่แรงงานไทยมาถึง บรรดาญาติที่มารอต่างเข้าโผกอดด้วยความดีใจ มีน้ำตาของความเป็นห่วงและคิดถึง ที่ปลอดภัยกลับมา บางครอบครัวใกล้หมดสัญญางานแล้วก็ไม่คิดจะกลับไปทำงานที่อิสราเอลอีก
จากนั้น นายพิพัฒน์ได้พบปะพูดคุยกับแรงงานไทย และกล่าวต้อนรับกลับบ้านอย่างปลอดภัย พร้อมเปิดเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 28 ราย แล้ว ส่วนแรงงานที่เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้กำลังรอทางการของอิสราเอลตรวจสอบอัตลักษณ์ พิสูจน์ทราบ จึงจะสามารถลำเลียงศพกลับประเทศไทยได้ นอกจากนี้ยังมีคนไทยแจ้งความประสงค์อีกกว่า 7,000 คน ในนามรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี แสดงความกังวล ห่วงใยแรงงาน เพราะเป็นผู้ที่มีคุณูปการของคนไทยที่ออกไปทำงาน หารายได้เข้าสู่ประเทศ สร้างความมั่นคง ฟื้นเศรษฐกิจ และต้องขอขอบคุณที่ช่วยกัน จนสามารถกลับมาได้ เราเข้าใจว่า แรงงานไทยตกอยู่ในสภาวะเครียดเมื่อเจอสงคราม พร้อมยืนยัน รัฐบาลพร้อมดูแลรับคนไทยกลับมาอย่างปลอดภัย
ทั้งนี้ ได้ประสานกับสายการบินนกแอร์ แอร์เอเชีย การบินไทย มีบางส่วนแจ้งไม่กลับจะทำงานต่อ แต่หากเกิดวิกฤติจริงๆ ก็คงต้องนำกลับ อย่างไรก็ตามกระทรวงแรงงานพร้อมดูแลแรงงานที่ยังไม่หมดสัญญา หากต้องการกลับไป ก็รอสถานการณ์จบลงก่อน หรืออาจจะหาประเทศมีรายได้ใกล้เคียงประสานให้ หรือหากใครจะทำงานที่เมืองไทย ก็ยินดีหางานให้เช่นกัน ขณะค่าโดยสารให้นำตั๋วเครื่องไปเบิกกับกระทรวงการต่างประเทศได้
คืนนี้หากแรงงานคนใดยังไม่ประสงค์กลับภูมิลำเนาก็สามารถค้างคืนที่โรงแรมได้ โดยน.ส.แพทองธาร ชินวัตร จะเป็นผู้ดูแลค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด
นายพิพัฒน์ ยังเปิดเผยอีกว่า นายกฯ กังวลว่าจะทำอย่างไรที่จะหาเที่ยวบินเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ประสานไว้แล้ว โดยเบื้องต้น รับมาได้วันละประมาณ 200 คน เพราะมีปัญหาพาสปอร์ตหาย ตกหล่น โดยกระทรวงการต่างประเทศ ได้เตรียมพาสปอร์ตสำรอง ไปกับเครื่องบินของกองทัพอากาศ 8,000 เล่ม จึงเชื่อว่า เที่ยวบินหลังจากนี้ จะบินได้วันละ 400 คน
ดังนั้น มั่นใจว่าจะอพยพได้เร็วขึ้น และคนไทยที่ลงทะเบียนไว้กว่า 7,000 คน จะสามารถกลับได้หมดช่วงต้นเดือนหน้า พร้อมขอให้ช่วยกันให้ข้อมูลช่วยเหลือคนไทย สำหรับคนที่ไม่แจ้งกลับ แล้วรู้สึกไม่ปลอดภัย ก็ขอให้แจ้งกลับได้ทันที เพราะครอบครัวคนไทยเป็นห่วง
ด้าน นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการดูแลสุขภาพคนไทยที่อพยพกลับจากอิสราเอล ว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข กำชับให้กระบวนการตรวจคัดกรองและประเมินอาการต่างๆ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตเกิดความสะดวกและเป็นไปด้วยความรวดเร็ว เพื่อให้คนไทยที่เดินทางกลับได้กลับคืนสู่อ้อมกอดของครอบครัวโดยเร็วที่สุด รวมถึงหากมีอาการผิดปกติจะได้รับการดูแลรักษาอย่างรวดเร็วและติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับรายงานจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ระยองว่าคนไทยชุดที่ 3 ได้เดินทางออกจากอิสราเอลมาถึงสนามบินอู่ตะเภา จ.ระยอง แล้วเมื่อเช้านี้เวลา 05.15 น. จำนวน 90 คน เป็นชาย 88 คน และหญิง 2 คน การตรวจคัดกรองใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย โดยรายแรกมีบาดแผลจากสะเก็ดระเบิด ส่วนอีกรายปวดบวมที่มือขวาเล็กน้อยจากการหกล้ม ซึ่งทั้ง 2 รายได้รับการดูแลที่จุดปฐมพยาบาลที่จัดเตรียมไว้ในสนามบิน ภาพรวมถือว่าอาการดี สามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาได้
สำหรับการประเมินคัดกรองด้านสุขภาพจิต ไม่พบผู้มีปัญหาแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม หลังจากผู้เดินทางขึ้นรถบัสจากสนามบินอู่ตะเภาไปยังโรงแรม SC Park กรุงเทพฯ แล้ว จะมีทีมเยียวยาจิตใจ (MCATT) จากสถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา ดำเนินการคัดกรองสุขภาพจิตอีกครั้งหนึ่ง ก่อนส่งเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาต่อไป สรุปผลการดูแลสุขภาพคนไทยที่เดินทางกลับจากอิสราเอลทั้ง 3 ชุด มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 8 ราย มีความเครียด 5 ราย นอนไม่หลับ 7 ราย พบตแพทย์ 2 ราย อาการตื่นตัวมากเกินไป 5 ราย และเจ็บคอ 1 ราย ทั้งหมดได้รับการดูแลและได้รับการติดตามอย่างต่อเนื่อง
ส่วน นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่มีผู้โพสต์ข้อมูลระบุจะไปทำงานที่อิสราเอล ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายกว่า 70,000 บาท และมีค่ารถบัสจากกระทรวงแรงงาน (ดินแดง กทม.) ไปสนามบินสุวรรณภูมิ จำนวน 2,500 บาท ว่า กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่ถูกต้อง เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงานในรัฐอิสราเอลทั้งหมดเป็นเงินจำนวนประมาณ 71,020 บาท (ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยน) และจะไม่มีค่าใช้จ่ายอื่น นอกจากรายการดังนี้ 1.ค่าใช้จ่ายก่อนการเดินทาง เท่าที่จ่ายจริง ได้แก่ ค่าธรรมเนียมการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม 100 บาท ค่าธรรมเนียมการขอรับหนังสือเดินทาง 1,500 บาท ค่าตรวจสุขภาพ 3,250 บาท ค่าบัตรโดยสารเครื่องบินเที่ยวเดียวจากประเทศไทยไปยังอิสราเอล ประมาณ 25,000 บาท ค่าสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ 400 บาท
2. ค่าใช้จ่ายหลังจากเดินทางไปถึงรัฐอิสราเอลภายใต้โครงการความร่วมมือไทย-อิสราเอลเพื่อการจัดหางาน ได้แก่ ค่าธรรมเนียมจัดหางานที่ต้องจ่ายให้แก่บริษัทจัดหางานในรัฐอิสราเอลและค่าธรรมเนียมของโครงการความร่วมมือไทย-อิสราเอล รวมประมาณ จำนวน 3,549 เชคเกลอิสราเอล หรือประมาณ 40,000 บาท ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนในขณะนั้น ตามข้อกฎหมายแห่งรัฐอิสราเอล ซึ่งต้องจ่ายเมื่อเดินทางไปถึงรัฐอิสราเอล
รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวย้ำว่า รัฐบาลมุ่งส่งเสริมให้ประชาชนมีงานทำ มีคุณภาพชีวิตที่ดี ส่งเสริมสนับสนุนให้แรงงานไปทำงานต่างประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย สำหรับผู้ที่ต้องการมีงานทำ สามารถใช้บริการผ่านเว็บไซต์ ไทยมีงานทำ.doe.go.th หรือทาง Mobile Application "ไทยมีงานทำ"
วันเดียวกัน นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประชาสัมพันธ์ข่าวสารจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปารีส จากกรณีเกิดเหตุร้ายเมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทางการฝรั่งเศสคาดว่าอาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลาง อีกทั้งต่อมาในวันที่ 14 ต.ค. ทางการฝรั่งเศสได้มีการอพยพผู้คนโดยด่วนออกจากพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ และพระราชวังแวร์ซาย และสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอื่นๆ เนื่องจากทางการฝรั่งเศสได้รับแจ้งเตือนว่าอาจมีการวางระเบิดในพื้นที่ดังกล่าว
ทางสถานเอกอัครราชทูตฯ จึงได้ประกาศเตือนคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวไทยในฝรั่งเศสให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง หลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมชนและสถานที่ท่องเที่ยว ตรวจสอบเส้นทางการเดินทาง และการเปิดทำการของสถานที่ต่าง ๆ รวมทั้งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการฝรั่งเศสอย่างเคร่งครัด รัฐบาลห่วงใยสวัสดิภาพและความปลอดภัยของประชาชนไทยทุกคนด้วยขอให้ติดตามข่าวสารจากช่องทางหลักของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนการเดินทาง หรือก่อนวางแผนการเดินทางทุกครั้ง นายชัย กล่าว