"วรวัจน์" ชี้หมุนเงินดิจิทัลกับแจกเงิน ความหมายแตกต่างกันสิ้นเชิงขอให้ใจเย็นๆ และร่วมกันให้กำลังใจรัฐบาล
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่าการแจกเงิน10,000 บาท ผ่านระบบกระเป๋าตังค์กับการสร้างระบบเงินหมุนผ่านระบบบล็อกเชน มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงอธิบายตอนนี้คงจะยาว แต่อยากให้ดูตอนผลลัพธ์ที่ออกมา เหมือนโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค โครงการกองทุนหมู่บ้าน บวกกับโครงการโอท๊อป เพราะรัฐบาล ไม่ได้แจกเงินฟรีๆแต่มีการส่งเสริมให้คนที่คิดจะลงทุน สามารถเพิ่มวงเงินลงทุนได้ด้วย เพราะฉะนั้นก็จะมีคนที่คิดนำเงินไปลงทุนเป็นจำนวนมาก เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่อยู่ในระบบปิด ที่ควบคุม การใช้จ่ายเม็ดเงินได้ ผลลัพธ์ก็คือ ในที่สุดรัฐบาลก็จะได้ภาษี ที่จะหมุนกลับมาเป็นเงินงบประมาณรอบใหม่ กับประเด็นที่ว่ารัฐบาลมีตังมั้ยก็ต้องให้ ข้อมูลว่า เฉพาะ เงินนอกงบประมาณ ที่สะสมอยู่ในภาครัฐ ก็มีอยู่ถึงปีละ4.8ล้านล้านบาท มากกว่าเงินงบประมาณแผ่นดินในแต่ละปี อยู่ที่รัฐบาลจะตัดสินใจกระจายความมั่งคั่งภาครัฐมาหมุนในระบบการเงินให้ภาคประชาชนเมื่อไหร่? อย่างไร? เท่านั้นเอง
“ผมเชื่อมือทีมเศรษฐกิจเพื่อไทยเชื่อว่า กำลังหาเวลาที่เหมาะสมประกอบกับนโยบายออกโฉนดที่ดิน50ล้านไร่ ที่จะกลายเป็นหลักทรัพย์ของประชาชน คิดแค่ไร่ละแสน ก็จะมีหลักประกันเพิ่มอีกกว่า 5 ล้านล้านบาทถ้านับโครงการ เพิ่มศักยภาพประชาชนให้มีรายได้ โดยสร้างงาน สร้างอาชีพ ยกระดับกลุ่มของงานโอท๊อปสู่ระดับอุตสาหกรรมโดยมีรัฐบาลทำหน้าที่การตลาดให้ ก็มั่นใจได้ว่า ใน4ปีนี้ รัฐบาลจะสามารถนำความมั่งคั่งมาสู่ประชาชนได้แน่ยิ่งเมื่อรัฐบาลตั้งเป้าหมายนำการท่องเที่ยวดึงเม็ดเงินเข้าสู่ประเทศเป็นเป้าหมายหลักแล้วก็เชื่อว่า การแก้ไขปัญหา เศรษฐกิจ ของรัฐบาล เป็นไปได้ ด้วยดีแน่ใจเย็นๆซักนิดนึงนะครับเมื่องานรัฐบาลเดิน และสำเร็จ เราจะร่วมดีใจ กับประเทศไทยนะครับไปด้วยกัน”