วันที่ 15 ต.ค.66 ความพยายามในการพาแรงงานในอิสราเอลกลับประเทศ แรงงานหลายคนตั้งตาคอยที่จะได้กลับรวมทั้งญาติๆ แต่ก็มีแรงงานไทยในอิสราเอลจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่อยากกลับ เนื่องจากมีภาระเรื่องหนี้สินและความต้องการเงินมาเลี้ยงครอบครัวที่อยู่ทางบ้านในประเทศไทย ประกอบกับทางการอิสราเอลได้ปฎิบัติภาคพื้นดินควบคุมพื้นที่ฉนวนกาซาได้บางส่วน  ทำให้ นายเอกชัย บุญสาม อายุ 38  ปี หนึ่งในแรงงานไทยชาวบ้านตำบลรอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย ซึ่งเพิ่งได้เดินทางไปทำงานในประเทศอิสราเอลได้เพียง 7 เดือน ได้วีดีโอคอลมาหาญาติใน จ.เชียงราย เพื่อไม่ให้ทางญาติเป็นห่วงและปรึกษาหารือในเรื่องการตัดสินใจกลับประเทศหรือไม่กลับ

โดย นายเอกชัย กล่าวว่า ตนพร้อมแรงงานไทยอีก 4 คน ได้มาทำงานอยู่ในแคมป์คนงานที่เมืองคีรีกาส ตั้งอยู่ห่างจากจุดปะทะกันระหว่างกองกำลังติดอาวุธฮามาสกับรัฐบาลทหารอิสราเอเล ที่ฉนวนกาซา ประมาณ 40 กิโลเมตร โดยสถานที่ทำงานมีการปลูกพืชผัก ผลไม้ เช่น อะโวคาโด องุ่น และผลไม้อีกหลายชนิด รวมถึงเลี้ยงสัตว์ ซึ่งตนและเพื่อนมีหน้าที่ในการดูแลโรงเลี้ยงไก่ ส่วนมากไม่ได้ออกไปไหนอยู่แต่แคมป์กับสถานที่ทำงานเพราะทางนายจ้างไม่ให้ออก

นายเอกชัย กล่าวว่า ในการปะทะ 1-2 วันแรก มีกระสุนตกลงมาในพื้นที่เพาะปลูกจำนวนหลายนัดจนเห็นเป็นกลุ่มคัวนและเปลวไฟ แต่โชคดีที่ไม่ตกลงมาที่แคมป์คนงานหรือตกใส่คนงานที่กำลังทำงาน แต่ก็น่ากลัว ตอนแรกคิดว่าจะหาทางกลับบ้านให้ได้ แต่มาระยะ 2-3 วันมานี้ ไม่มีกระสุนปืนตกลงมา อีกทั้งไม่มีกองกำลังติดอาวุธเข้ามาถึงพื้นที่ ทำให้พื้นเงียบสงบ จึงทำให้ตัดสินใจว่าจะรอดูเหตุการณ์ต่อไปอีกระยะหนึ่ง หากสงครามยังไม่ยุติและมีความรนุแรงขึ้น พื้นที่ที่อาศัยเสี่ยงอันตรายก็ค่อยตัดสินใจกลับ

นายเอกชัย กล่าวด้วยว่า ใจหนึ่งก็อยากจะกลับเพราะความกลัว แต่เมื่อมามองถึงภาระและหนี้สินที่กู้ยืมมาเพื่อใช้เป็นค่าเดินทางมาทำงาน ทำให้ต้องเสี่ยงอยู่ในพื้นที่ต่อ โดยตนและเพื่อนๆ ได้เงินเดือนประมาณคนละ 50,000 บาท ซี่งจะพอส่งกลับให้ญาติเพื่อใช้หนี้และใช้เลี้ยงครอบครัว หากกลับมาประเทศไทยตอนนี้ และหากจะมาอีกก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม กลับไทยหากไม่ได้กลับมาไม่รู้จะหางานอะไรทำที่ให้ได้เงินมากเท่านี้ จึงคิดจะอยู่ต่อจนชดใช้หนี้สินหมดเก็บเงินสักก้อนถึงเดินทางกลับไทย ซึ่งบริเวณเมืองที่ตนอยู่มีแรงงานไทยค่อนข้างมาก ส่วนใหญ่ก็ตัดสินใจที่จะอยู่ทำงานต่อ

ล่าสุดทางนายเอกชัย ได้โพสต์คลิปวีดีโอความเป็นอยู่และการทำงานในชีวิตประจำวันในประเทศอิสราเอลส่งมาให้กับทางญาติ โดยบอกว่า ปัจจุบันสถานการณ์ภายในประเทศเริ่มสงบแล้วมาตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม เป็นต้นมา โดยไม่มีเสียงการยิงปะทะและการยิงระเบิดในพื้นที่เหมือนวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ทำให้ประชาชนชาวอิสราเอลและแรงงานทั้งแรงงานไทย หรือชาวต่างประเทศอื่นๆ ก็สามารถออกมาทำงานกันตามปกติแล้ว โดยตนก้ได้ออกมาดูเล้าไก่และเก็บไข่ไก่ให้กับนายจ้างได้แล้ว โดยที่ทางบ้านไม่ต้องเป็นห่วง