เมื่อวันที่ 14 ต.ค.66 ายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Chaturon Chaisang ระบุว่า...

ถึงญาติวีรชน 14 ตุลาคม และพี่น้องผู้รักประชาธิปไตยทุกท่าน

เรารำลึกเหตุการณ์และวีรชนในเหตุการณ์ 14 ต่อเนื่องกันมาเป็นปีที่ 50 ในการรำลึกแต่ละครั้งแต่ละปีก็เชิดชูเจตนารมณ์ประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพ เชิดชูวีรกรรมของวีรชน 14 ตุลาคม มีการศึกษาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในความหมายทางการเมือง ทางประวัติศาสตร์ และ ในแต่ละช่วงเราหยิบยกประเด็นที่สอดคล้องกับเหตุการณ์ในขณะนั้นๆเพื่อเป็นประโยชน์ในการที่จะแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ที่สำคัญที่สุดก็เพื่อพัฒนาประชาธิปไตย

คำถามคือในปีนี้เราจะรำลึกและเน้นย้ำเรื่องอะไร

แน่นอนเหตุการณ์ 14 ตุลาคม คือความต่อเนื่อง และพัฒนาการของการต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยและสิทธิเสรีภาพของประชาชน การต่อสู้ในครั้งนี้ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ทำให้เราได้รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย มีการเลือกตั้ง ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพมากที่สุดครั้งหนึ่งแต่ว่าสภาพทางการเมืองเป็นประชาธิปไตย ก็อยู่ได้ไม่นาน 3 ปีหลังจากนั้นพวกเผด็จการก็กลับมายึดอำนาจในเหตุการณ์ 6 ตุลาคมและการรัฐประหารในวันเดียวกัน ทำให้ประเทศไทยถอยหลังไปสู่การปกครองแบบเผด็จการสมบูรณ์แบบ

แม้จะเป็นอย่างนั้นแต่ 14 ตุลาคมยังคงมีความหมายที่ยิ่งใหญ่เป็นการประกาศเจตนารมณ์ของประชาชนที่ต้องการให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย และประชาชนมีเสรีภาพซึ่งเป็นประโยชน์สูงสุดของประเทศ

14 ตุลาคมเป็นการจุดประกายที่เห็นคุณค่าความหมายของพลังประชาชน และพลังของคุณหนุ่มสาวที่สามารถทำให้เกิดประชาธิปไตยขึ้นมาได้ และยังเกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ

พรรคเพื่อไทย ไม่ใช่พึ่งมาร่วมรำลึกวีรชน 14 ตุลาคมในวันนี้ เราร่วมรำลึกมาตั้งแต่จุดเริ่มต้นของพรรคไทยรักไทย ในการรำลึกครั้งแรกของพรรคไทยรักไทยก็ตรงกับวันที่ทำพิธีเปิดอนุสรณ์สถานแห่งนี้เมื่อปี 2544

เป็นเวลา 20 กว่าปีมานี้เราก็ร่วมรำลึกในโอกาสต่างๆในสถานะต่างๆตลอดมา เพราะฉะนั้นที่ผมพูดมาแล้วนี้จึงไม่ใช่สิ่งใหม่ ไม่ใช่ความหมายส่วนตัวของผม แต่เป็นการพูดซ้ำและยืนยันสิ่งที่พรรคเพื่อไทยพูดมาตลอด ประกาศมาตลอดตั้งแต่เป็นพรรคไทยรักไทน เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

คำถามว่าเมื่อเราโยงกับสถานการณ์ปัจจุบัน เราควรจะเน้นย้ำอะไร ผมขอเน้นย้ำ 3 เรื่องที่เราต้องให้ความสำคัญ

1. การเยียวยาดูแลผู้สูญเสีย ญาติวีรชนในเหตุการณ์การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยทั้งเหตุการณ์ 14 ตุลาคมและเหตุการณ์อื่นๆต่อเนื่องมา

การดูแลญาติของผู้เสียหายผู้สูญเสียในเหตุการณ์การต่อสู้ทางการเมืองต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและต่อสู้เพื่อประชาชนนั้น เกิดขึ้นในช่วงที่รัฐบาลเป็นรัฐบาลประชาธิปไตย แต่ถูกระงับยับยั้งขัดขวางไปเมื่อเกิดการรัฐประหาร พรรคเพื่อไทยมีส่วนร่วมในการดูแลให้การเยียวยาแก่วีรชนมาบ้าง แต่ในขณะนี้ก็ทราบว่ามีประเด็นที่ยังค้างอยู่หลงเหลืออยู่และต้องการความต่อเนื่อง พรรคเพื่อไทยก็จะมีนโยบายทำอย่างที่เคยทำมาแล้วใน 2 รัฐบาลที่ผ่านมาในอดีตในช่วง 20 ปีมานี้

2. พรรคเพื่อไทยเห็นว่ามีความจำเป็นต้องคุ้มครองส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน ให้สามารถคิดใฝ่ฝันและแสดงออกเพื่อให้ได้สังคมที่ดีกว่าเหมือนอย่างที่วีรชน 14 ตุลาคมเคยคิดเคยใฝ่ฝัน

ต้องหลีกเลี่ยงและป้องกันไม่ให้เกิดการใช้กำลังความรุนแรงต่อประชาชนผู้ที่เห็นต่างจากรัฐ รวมถึงการแก้กฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน

3. เหตุการณ์ 14 ตุลาคมเกิดขึ้นจากการที่ประชาชนเรียกร้องในหลายเรื่อง แต่เรื่องสำคัญที่สุดคือเรียกร้องให้มีรัฐธรรมนูญ เรียกร้องให้จากประเทศที่ไม่มีรัฐธรรมนูญ ปกครองโดยธรรมนูญชั่วคราวของเผด็จการ ประชาชนเรียกร้องให้มีรัฐธรรมนูญ

ถ้าเราศึกษาจาก 14 ตุลาคม เคารพเจตนารมณ์ของ 14 ตุลาคม มาวันนี้เรามีรัฐธรรมนูญแต่เป็นรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างยิ่ง เราจึงจะต้องร่วมกัน แก้ไข เขียนใหม่ ร่างใหม่ให้ได้รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย

สิ่งทั้งหลายที่ผมพูดไม่ใช่เรื่องใหม่และไม่ใช่ความคิดส่วนตัวของผม แต่เป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยตั้งแต่พรรครักไทยมาก็พูดแบบนี้หลายครั้งหลายครั้งและครั้งนี้ก็ให้ผมเป็นผู้มาพูดตามนโยบายของพรรคเพื่อไทย-ไทยรักไทย

วันนี้สิ่งที่ผมพูดไปว่าต้องเน้นย้ำ 3 ข้อเป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่ประกาศตลอดมารวมทั้งประกาศในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วและยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด ผมจึงมาพูดในนามพรรคเพื่อไทย ทุกเรื่องไม่ใช่ความเห็นส่วนตัวครับ

จาตุรนต์ ฉายแสง

14 ตุลาคม 2566