วันที่ 14 ตุลาคม 2566 ที่ อาคารเอนกประสงค์ สำนักงานเกษตรจังหวัดชัยภูมิ นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นาย คุณากร ปรีชาชนะชัย เลขานุการฯ ส.ส.โอชิษฐ์ เกียรติก้องชูชัย เขต 1,ส.ส. เชิงชาย ชาลีรินทร์ เขต 2,ส.ส. ศิวะ พงษ์ธีระดุลย์ เขต 5 พรรคเพื่อไทย ,อดีต ส.ส. พรเพ็ญ บูรณศิริวัฒนกุลพร้อมคณะที่ปรึกษา และผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมรองอธิบดีฯ ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมเปิดงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พบประชาชน มี นาย สมบัติ ไตรศักดิ์ รอง ผวจ.ชัยภูมิ น.ส.อรอาภา โล่ห์วีระ รอง ผวจ.ชัยภูมิ และ พ.อ.พ.อ.ปิยะวัติ ราชวงษ์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดชัยภูมิ พร้อมข้าราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้การต้อนรับ ภายในงานได้มอบนโยบายและมอบปัจจัยการผลิตให้เกษตรกร และเยี่ยมบูทส่วนราชการ จากนั้นได้ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพพร้อมเยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วม บ้านเสี้ยวน้อย ต.บ้านค่าย อ.เมือง และ บ้านท่าศาลา ต.ระหาร อ.จัตุรัส ซึ่งประสบปัญหาน้ำท่วมเนื่องจากภาวะน้ำเอ่อล้นจากลำน้ำชีโดยเฉพาะตำบลละหาน มี18 หมู่บ้าน 3,671 ครัวเรือนประชากร 12,769 ุคนและที่ได้รับผลกระทบมี 17 หมู่บ้านน้ำจะท่วมและได้รับความเดือดร้อนทุกปี
ด้าน นาย ไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผย ภายหลังลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย และตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วม ว่า ภายใต้นโยบาย "ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้" ของนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน จะช่วยให้รายได้ของเกษตรกรเพิ่มมากขึ้น จากการมุ่งมั่นผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ อย่างการทำเกษตรอินทรีย์ เพื่อจำหน่ายในพื้นที่ห้างสรรพสินค้า หรือส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ ซึ่งอาจสร้างรายได้กว่า 10,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ได้แนะนำให้เกษตรกรใช้นวัตกรรมในการทำการเกษตร เพื่อให้มีผลผลิตที่ดีมีคุณภาพ โดยสามารถขอรับคำแนะนำได้ที่สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดชัยภูมิ รวมถึงมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาอุทกภัยในระยะยาว"ในเรื่องปราบปรามสินค้าเกษตรเถื่อน
โดยเฉพาะเนื้อเถื่อนทุกชนิดยืนยันว่ากระทรวงเกษตรฯ ที่ตนดูแลกรมปศุสัตว์ จะปราบปรามอย่างจริงจัง ทั้งนี้ก็เพื่อทำให้กลไกตลาดเกษตรกรรายย่อยกลุ่มผู้เลี้ยงหมู วัว ควาย สามารถที่จะจำหน่ายเนื้อที่มีกำไร และผู้บริโภคได้บริโภคเนื้อที่มีคุณภาพ เพราะเนื้อเถื่อนได้ทำลายระบบเศรษฐกิจของประเทศ เพียงเดือนเศษ ที่ตนได้สั่งการให้ปราบปรามอย่างจริงจัง ผลการจับกุม มีมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท การตรวจห้องเย็นปูพรมทั่วประเทศจึงเป็นวิธีการป้องปรามและปราบปรามควบคู่ จึงขอให้พี่น้องประชาชนและพี่น้องเกษตรกรแจ้งเบาะแสสินค้าเกษตรเถื่อน เพื่อรักษากลไกตลาดที่จะทำให้การค้าภายในประเทศเติบโตยิ่งขึ้น" นายไชยา กล่าวสำหรับสถานการณ์น้ำท่วมปี 2566 จนถึง12 ต.ค.66 จ.ชัยภูมิ มีพื้นที่ประสบภัยใน 9 อำเภอ 53 ตำบล 507 หมู่บ้าน 27,626 ครัวเรือน ประกอบด้วย อ.เมืองชัยภูมิ อ.บ้านเขว้า อ.คอนสวรรค์ อ.หนองบัวแดง อ.จัตุรัส อ.หนองบัวระเหว อ.คอนสาร อ.ภักดีชุมพล และ อ.เนินสง่า พื้นที่เพาะปลูก 8 แสนกว่าไร่ มีพื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วม เป็นไร่อ้อย ไร่มันสำปะหลัง นาข้าว พืชผักสวนครัวต่าง ๆ ถูกน้ำท่วมประมาณ 341,337 ไร่ คาดว่ามีพื้นที่เสียหาย 268,700 ไร่ วงเงินให้ความช่วยเหลือคามหลักเกณฑ์ความเสียหายกว่า 468,605,838 บาท