ใหม่ล่าสุด! C.P.S. COFFEE (ซีพีเอส คอฟฟี่) ได้เปิดให้บริการสาขา Vivre Langsuan ตั้งอยู่ในโครงการมิกซ์ยูส “วีฟร์ หลังสวน” ชั้น G ซอยหลังสวน ใจกลางย่านธุรกิจ แต่มีบรรยากาศชวนผ่อนคลาย และเป็นกันเอง พร้อมต้อนรับเหล่าคาเฟ่ฮอปเปอร์ให้มาพักกายใจ ด้วยการดื่มด่ำรสชาติกาแฟชั้นเลิศ ที่พร้อมเสิร์ฟคู่กับ
เบเกอรี่แสนอร่อย เพื่อมอบอรรถรสให้การดื่มกาแฟพิเศษยิ่งกว่าที่เคย ทั้งยังชวนลิ้มรสชาติกาแฟ 2 เมนูใหม่ ที่ครีเอทพิเศษในโอกาสเปิดสาขาใหม่ครั้งนี้ด้วย
มัลลิกา จาวลา ผู้อำนวยการอาวุโส แบรนด์ C.P.S. COFFEE ยัสปาล กรุ๊ป หรือ บริษัท ยัสปาล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยแนวคิดที่แตกต่างของ C.P.S. COFFEE คาเฟ่สไตล์ Specialty Coffee & Lifestyle Bar คือ COFFEE, PASSION และ SPECIALTY ที่สะท้อนถึงคาแรกเตอร์ของแบรนด์ ซึ่งเป็นกาแฟที่สร้างสรรค์ขึ้นจากความหลงใหล และความใส่ใจในการรังสรรค์เมนู การคัดเลือกเมล็ดกาแฟ วัตถุดิบ และอุปกรณ์ ไปจนถึงความเชี่ยวชาญของบาริสต้า แต่ขณะเดียวกัน ยังสามารถสะท้อนคอนเซ็ปต์ความเท่ตามแบบฉบับของแฟชั่นสไตล์ CPS CHAPS ได้อย่างลงตัว
ที่สำคัญ C.P.S. COFFEE ยังสะท้อนความหลงใหลและความเชี่ยวชาญด้านกาแฟ ผ่านโลโก้ของแบรนด์ ด้วยแนวคิด ‘Dot’ ที่มี 3 จุด สื่อถึงเมล็ดกาแฟและระดับของการคั่วเมล็ดกาแฟที่ไล่ระดับกัน คือ อ่อน (Light) กลาง (Medium) และเข้ม (Black) นอกจากนี้ จุดทั้ง 3 จุดยังได้นำมาตีความในการออกแบบตกแต่งภายในร้าน ทั้งการเลือกใช้วัสดุและโทนสีร้านบริเวณต่างๆ ได้แก่ สีครีม แทนระดับการคั่วที่อ่อนที่สุด สีส้ม แทนระดับการคั่ว ที่เพิ่มความเข้มขึ้นมา และ สีน้ำตาลเข้ม หรือสีเมล็ดกาแฟแทนระดับการคั่วที่เข้มสุด
สำหรับการออกแบบตกแต่งภายใน C.P.S. COFFEE สาขา Vivre Langsuan ซึ่งเป็นสาขาแรกที่ตั้งอยู่ในอาคารสำนักงาน จึงเน้นบรรยากาศสบาย ๆ ชวนผ่อนคลาย สามารถแวะเวียนมาดื่มกาแฟได้ทุกวัน ตลอดทุกช่วงเวลา ให้ความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของคอมมูนิตี้ไลฟ์สไตล์ของชาวออฟฟิศอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ยังผสานเข้ากับไอเดียหลักของแบรนด์ C.P.S. COFFEE คือ Dot ด้วยการออกแบบเคาน์เตอร์บาร์เป็นทรงตัว O บริเวณกลางพื้นที่ เพื่อให้กลมกลืนกับตัวอาคารรับกับฝ้าเพดานที่ดีไซน์เป็นรูปวงรีคล้ายหยดน้ำ สื่อถึงการกระเพื่อมของน้ำที่เรียกว่า “Droplet” ได้อย่างลงตัว
ทั้งนี้ ในโอกาสเปิด C.P.S. COFFEE สาขา Vivre Langsuan อย่างเป็นทางการ ในงานเปิดร้านได้เชิญบาริสต้าสาวสวยมากความสามารถ “บรูน่า ซิลวา” สาวบราซิล ดีกรี Q Arabica Grader ผู้ที่ได้รับรองจากองค์กร Specialty Coffee ระดับโลกอย่าง Coffee Quality Institute มาร่วมรังสรรค์กาแฟที่มีรสชาติผสมผสานกันของกาแฟหลากหลายสายพันธุ์ทั่วโลก พร้อมเสิร์ฟให้คอกาแฟได้ลิ้มลองรสชาติอันล้ำเลิศถึง 2 เมนู ได้แก่ SHAKERATO ดื่มด่ำรสชาติกาแฟเข้มข้นแบบ Espresso Shot โดยสามารถเลือกความเข้มของเมล็ดกาแฟจากระดับการคั่วทั้ง 3 ระดับ (คั่วอ่อน คั่วกลาง คั่วเข้ม) ได้ตามชอบใจ จากนั้นนำมาเชคจนกระทั่งความเย็นจากน้ำแข็งผสานเข้ากับ Espresso Shot จนเกิดเป็นเนื้อสัมผัสของเครื่องดื่มที่เนียนนุ่ม แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยรสชาติของกาแฟเข้มข้น ที่คอกาแฟสายดาร์คต้องเลิฟ และ SHAKERATO BLANC สำหรับคอกาแฟสายละมุน ที่จะได้สัมผัสรสชาติของกาแฟเข้มข้นแบบ Espresso Shot ที่สามารถเลือกระดับการคั่วของเมล็ดกาแฟได้ทั้ง 3 แบบเช่นกัน นอกจากเชคกาแฟ และน้ำแข็งเข้าด้วยกันแล้ว ก็เติมความกลมกล่อมด้วย Milk Cream สูตรพิเศษ ที่เพิ่มความกลมกล่อมให้กับกาแฟได้อย่างลงตัว
พร้อมเพิ่มดีกรีความอร่อยของการดื่มกาแฟ ด้วยการจับคู่เข้ากับคุกกี้ที่มีให้เลือก 3 ชนิด ซึ่งจะช่วยเพิ่มอรรถรสให้ครบถ้วนยิ่งขึ้น ได้แก่ Macadamia White Choc Cookie คุกกี้เนื้อนุ่มที่ผสานกับไวท์ชอคโกแลต เพิ่มเนื้อสัมผัสให้ได้เคี้ยวกรุบกรับด้วยแมคคาเดเมียเม็ดโต, Mocha Marshmallow Cookie คุกกี้รสชอคโกแลตเข้มข้นที่มีส่วนผสมของกาแฟ ตกแต่งด้วย มาร์ชเมลโลให้ความหอมหวาน และ Red Velvet Cookie คุกกี้เรดเวลเวทแบบดั้งเดิมที่อาจไม่ได้มีสีแดงฉูดฉาด แต่ให้รสชาติของชอคโกแลต และเนื้อสัมผัสชุ่มฉ่ำเต็มคำ สอดไส้ด้วยครีมชีส ที่มาช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับคุ้กกี้ชิ้นนี้กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ในงานยังได้รับเกียรติจาก 2 เซเลบริตี้สาวสวยร่วมแชร์ไลฟ์สไตล์การดื่มกาแฟ และเมนูกาแฟที่โปรดปราน เริ่มจาก ปรางค์ - อภินรา ศรีกาญจนา เจ้าของธุรกิจสตาร์ทอัพเพื่อสังคม U Drink I Drive บริการคนขับรถ เผยว่า “เดิมทีไม่ได้ดื่มกาแฟเป็นประจำ แต่เพิ่งได้ลองดื่มกาแฟแบบ Cold Brew ที่ผสมกับน้ำผลไม้ ซึ่งช่วยในเรื่องของการดีท็อกซ์ บวกกับได้อ่านงานวิจัยซึ่งพบว่า การดื่มกาแฟในตอนเช้าในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยให้การหมุนเวียนของเลือดดีขึ้น แล้วตัวเองก็เป็นคนตื่นเข้าอยู่แล้ว กาแฟถือเป็นตัวช่วยที่เรียกความสดชื่นได้ดี โดยเฉพาะเมนู SHAKERATO ที่ได้สัมผัสกลิ่นหอมและรสชาติเข้มข้นของกาแฟแบบเต็ม ๆ”
เธอเล่าต่อว่า “ปกติปรางค์ใช้ชีวิตในย่านนี้อยู่แล้ว และมองว่าการที่แบรนด์แฟชั่นอย่าง CPS CHAPS ขยายมาสู่ธุรกิจร้านกาแฟ ทำให้มีความรู้สึกว่าที่นี่มีความเป็น Fashion Coffee House ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์หนุ่มสาว ไม่ว่าจะเป็น เพลย์ลิสต์ของเพลงที่เปิดภายในร้าน เมนูที่เสิร์ฟ ซึ่งต่างจากร้านกาแฟทั่วไป เพราะผู้คนย่านหลังสวน ต้นสน เพลินจิต นอกจากเป็นคนทำงานแล้ว ยังเป็นกลุ่มคนที่มีไลฟ์สไตล์ชัดเจนอีกด้วย”
ส่วน เอื้อน - ณพสรา ไทยวัฒน์ สาธิตเกษม นักการตลาดคนเก่งของแบรนด์นาฬิกาหรู RADO เล่าว่า “เอื้อนชอบดื่มกาแฟตอนเช้าก่อนทำงาน ส่วนเมนูกาแฟที่เลือกดื่ม ก็หมุนเวียนเปลี่ยนไปในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็น อเมริกาโน่ คาปูชิโน่ ลาเต้ แต่จะชอบเมล็ดกาแฟแบบคั่วเข้ม เพราะไม่ชอบกาแฟที่ติดเปรี้ยว”
นอกจากนี้ เธอยังชื่นชอบสไตล์ของแบรนด์ C.P.S. COFFEE ที่มีความครีเอทีฟสูง รวมทั้งดีไซน์ของร้านที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ที่ชอบแฟชั่น เสียงดนตรี และการกินดื่ม “ถ้าวันไหนอยากนั่งดื่มกาแฟชิลๆ ก็จะมาที่ร้าน C.P.S. COFFEE แวะมานั่งผ่อนคลายสักพักตรงบริเวณบาร์ พร้อมดื่มเมนูกาแฟสุดโปรด อย่าง Dirty Coffee ที่ผสานรสชาติหวานมันของนมเข้ากับความเข้มข้นของกาแฟได้อย่างลงตัว ซึ่งสาขา Vivre Langsuan ที่เปิดใหม่นี้ เป็นสาขาที่ตอบโจทย์สำหรับเอื้อนมากๆ เพราะออฟฟิศอยู่แถวถนนวิทยุพอดี ก็คงจะได้แวะซื้อกาแฟ ก่อนเข้าออฟฟิศทุกวัน”
ดื่มด่ำกลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟ ที่พร้อมเสิร์ฟให้ทุกคนได้สัมผัสที่ C.P.S. COFFEE สาขา Vivre Langsuan พร้อม 2 เมนูกาแฟใหม่สุดพิเศษ พร้อมให้ได้ลิ้มลองรสชาติแล้ว เฉพาะสาขานี้เท่านั้น!