วันที่ 13 ต.ค.2566 เจ้าหน้าที่ที่กรมการจัดหางาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พานายจันทร์ดี แซ่ลี ชาวบ้านห้วยแล้ง ต.ท่าข้าม อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ซึ่งเป็น 1 ใน 15 แรงงานไทยจากประเทศอิสราเอลกลุ่มแรกที่ได้เดินทางกลับประเทศ ไปส่งยังภูมิลำเนาเดิมที่ อ.เวียงแก่น โดยก่อนเดินทางกลับได้รับการช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงแรงงานในการมอบสิทธิประโยชน์เป็นกองทุนช่วยเหลือแรงงานที่ไปทำงานต่างประเทศแต่เกิดกรณีต้องเดินทางกลับเพราะภาวะสงคราม 

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้พานายจันทร์ดีไปตรวจสุขภาพและพาออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา ก่อนพักค้างแรมระหว่างทาง 1 คืน และช่วงสายจะได้พาเดินทางต่อไปโดยมีกำหนดถึงบ้านของนายจันทร์ดีในเวลา 14.00 น.วันที่ 13 ต.ค.นี้ ซึ่งนางสุภาเพ็ญ ศิริมาตย์ นายกเหล่ากาชาด จ.เชียงราย ได้นำคณะเหล่ากาชาดพร้อมฝ่ายปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปรอต้อนรับ ท่ามกลางความดีใจของญาติมิตรที่หลังจากที่นายจันทร์ดีเดินทางไปทำงานด้านการเกษตรที่ประเทศอิสราเอลตั้งแต่วันที่ 29 พ.ค.2564 หรือมากกว่า 2 ปีแล้ว

สำหรับ จ.เชียงราย มีแรงงานเดินทางไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลมากถึง 2,174 คน เป็นชาย 2,148 คน และหญิง 26 คน โดยมีภูมิลำเนากระจายอยู่ตามอำเภอต่างๆ ซึ่งที่ อ.เวียงแก่น ถือว่าเดินทางไปมากที่สุดถึง 523 คน อ.เทิง 319 คน อ.แม่ฟ้าหลวง 303 คน อ.เชียงของ 201 คน อ.เมืองเชียงราย 159 คน อ.แม่สรวย 141 คน อ.พญาเม็งราย 99 คน อ.เวียงป่าเป้า 95 คน อ.แม่จัน 93 คน อ.เชียงแสน 74 คน อ.เวียงเชียงรุ้ง 58 คน อ.ดอยหลวง 26 คนอ.ป่าแดด 21 คน อ.พาน 21 คน  อ.ขุนตาล 20 คน อ.เวียงชัย 11 คน และ อ.แม่ลาว 5 คน และ อ.แม่สาย 5 คน 

รายงานข่าวแจ้งว่าในกลุ่มผู้เดินทางไปทำงานทั้งหมดดังกล่าวพบว่ามีกลุ่มที่ญาติได้รับแจ้งจากหัวหน้างานและเพื่อนคนงานที่ประเทศอิสราเอลว่าถูกยิงเสียชีวิตแล้ว 1 ราย และอีก 1 ราย ได้รับแจ้งไม่ชัดเจนว่าถูกยิงหรือไม่โดยทั้งคู่มีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่ ต.ดงมหาวัน อ.เวียงเชียงรุ้ง ขณะที่บางรายยังไม่ทราบสถานะที่ชัดเจนเพราะญาติไม่สามารถติดต่อได้หลังเกิดเหตุวันที่ 7 ต.ค.เป็นต้นมา.