ผู้ว่าฯลพบุรี นำคณะลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวแรงงานไทย ไปทำงาน "อิสราเอล " พร้อมเตือนญาติ อย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพหลอกลวงพาบุตรหลานกลับบ้านได้ 

    

เมื่อ วันที่ 12 ตุลาคม 2566 นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี นำคณะหัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงาน  กระทรวงมหาดไทย สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดลพบุรี  หัวหน้าส่วนราชการ เหล่ากาชาดจังหวัดลพบุรี และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกันลงพื้นที่ เยี่ยมให้กำลังใจและมอบสิ่งของช่วยเหลือครอบครัวแรงงานไทย ไปทำงาน "อิสราเอล "  4 ครอบครัว ในพื้นที่อำเภอพัฒนานิคม และชัยบาดาล สำหรับรายอื่น ๆ ได้มอบหมายให้ นายอำเภอ พัฒนาการอำเภอ และ กิ่งกาชาดอำเภอ ได้ลงพื้นที่  โดยจังหวัดลพบุรีมีแรงงานไทยที่ไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล จำนวน 17 คน กระจายอยู่ใน 6 อำเภอ ประกอบไปด้วย  อำเภอเมืองลพบุรี 5 คน อำเภอชัยบาดาล  4  คน  อำเภอโคกสำโรง  3  คน  อำเภอพัฒนานิคม   2  คน  อำเภอโคกเจริญ   2  คน และอำเภอท่าวุ้ง 1  คน  โดยผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ได้พูดคุยกับแรงงานไทยผ่านทางโทรศัพท์วิดีโอคอลสอบถามสถานการณ์ในพื้นที่ และให้กำลังใจกับแรงงานไทยในประเทศอิสราเอล ซึ่งจากการสอบถามแรงงานไทยทั้ง 4 คน ปลอดภัยดี ทั้งนี้หน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานได้แจ้งช่องทางการขอรับการช่วยเหลือให้ทางครอบครัวและแรงงานทราบโดยละเอียดแล้ว

ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี กล่าวว่า จังหวัดลพบุรีร่วมกับสำนักจัดหางานจังหวัดลพบุรีได้ตรวจสอบข้อมูล พบมีพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดลพบุรีที่ไปทำงานอยู่ที่อิสราเอล จำนวน 17 คน กระจายกันอยู่ 6 อำเภอ ซึ่งด้วยความห่วงใยของทางรัฐบาลโดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านนายกรัฐมนตรี  ที่เป็นห่วงผู้ใช้แรงงานที่ทำงานอยู่ที่อิสราเอล เกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย อีกทั้งท่านยังเป็นห่วงครอบครัวที่อยู่เมืองไทยด้วย จึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  ทีมงานสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัด  ได้ผนึกกำลังกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน  ได้ออกมาพบปะเยี่ยมให้กำลังใจญาติที่อยู่เมืองไทย เพื่อให้คลายกังวลและให้ความมั่นใจว่ารัฐบาลจะไม่ทอดทิ้งลูกหลานเขาที่อยู่ที่อิสราเอล  สำหรับครอบครัวที่ออกมาเยี่ยม 4 ราย ทุกรายเราก็สามารถติดต่อได้ผ่านวีดีโอคอล ทางโทรศัพท์ ก็ได้ทำความเข้าใจกับผู้ใช้แรงงานที่เดินทางไปที่อิสราเอล ทุกรายว่าหากจะประสงค์กลับรัฐบาลจะดูแลทุกเรื่อง ไม่ว่าการเดินทางขากลับมาประเทศและในอนาคตที่จะกลับไปทำงานเหมือนเดิม ขอให้มีความมั่นใจในขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี ก็เป็นห่วงเรื่องพี่น้องประชาชนจะถูกมิจฉาชีพหลอกลวงโดยเฉพาะอย่างยิ่งการโทรมาติดต่ออ้างว่าจะสามารถพาบุตรหลานของเขากลับมาได้ หากพี่น้องประชาชนที่เป็นญาติ จะขอให้แรงงานกลับประเทศไทย ให้ติดต่อทางกระทรวงแรงงานโดยเฉพาะอย่างยิ่งจัดหางานจังหวัดลพบุรีมีเบอร์โทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่ฝากไว้กับครอบครัวแล้วรวมทั้งให้เบอร์โทรศัพท์ของสถานทูตไทยที่อยู่ ณ เทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอลไว้ด้วยแล้ว