นายกฯ ห่วงแรงงานไทยในอิสราเอล สั่งปรับแผนช่วยเหลือ-อพยพ ให้เร็วที่สุด ลั่นความสำคัญที่สุดคือชีวิตคนไทยทุกคน
วันนี้ (12 ตุลาคม 2566) เวลา 18.00 น. ที่ กระทรวงการต่างประเทศ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการคลัง แถลงข่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินความไม่สงบตะวันออกกลาง ติดตามความคืบหน้าในการช่วยเหลือคนไทย โดยภายหลังเสร็จสิ้นการแถลง นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผย ดังนี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเดินทางอย่างเป็นทางการที่ผ่านมาได้แก่ ฮ่องกง บรูไน มาเลเซีย และสิงคโปร์ โดยได้หารือกับผู้นำฮ่องกงเพื่อเพิ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ฮ่องกงมองว่าไทยมีศักยภาพ เห็นความสำคัญจากจุดยุทธศาสตร์ของไทย สนใจจะลงทุนเพิ่ม พบปะนักธุรกิจทุกวงการที่ฮ่องกง ดีใจที่ผู้นำไทยเดินทางออกมาพูดคุยกับนักลงทุนอย่างเปิดเผย แจกแจงการลงทุนอย่างเป็นระบบโครงสร้าง พลังงานสีเขียว ซึ่งน่าสนใจลงทุน ที่บรูไนได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับผู้นำบรูไน ซึ่งปีหน้าครบ 40 ปี ความสัมพันธ์ เชื้อพระวงศ์มีความสนิทสนมอย่างยาวนาน มิตรภาพระหว่างสองประเทศเป็นไปด้วยดี กองทุนบำนาญบรูไนมาลงทุนที่ไทยโดยจะร่วมมือกับ กบข. โดยจะหาความร่วมมือที่เป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่ายโดยเน้นไปที่เรื่องของอาหาร ไทยมีความมั่นคงทางอาหาร และบรูไนมีแบรนด์ที่เป็นที่เชื่อมั่น หากร่วมมือกันลงทุน โดยกองทุนบำเหน็จบำนาญของบรูไนก็จะเป็นประโยชน์มาก รวมทั้งเรื่องของ Wellness เป็นเรื่องที่บรูไนสนใจจะร่วมลงทุนกับไทย ต่อมาเดินทางไปมาเลเซียตามคำเชิญนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในการเข้าเฝ้าฯสมเด็จพระราชาธิบดีมาเลเซียทรงมีพระราชประสงค์ให้เพิ่มการค้าระหว่างสองประเทศ เพิ่ม Trade Volume เปิดชายแดนทำงานร่วมกัน จะเพิ่มการค้าขายได้ พระองค์ทรงเป็นห่วงเรื่องการอนุรักษ์สัตว์ป่า ขอให้ดูแลเรื่องการลักลอบล่าสัตว์ ในการหารือกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้พูดคุยถึงการค้า ความมั่นคงชายแดน เพิ่มการลงทุน ด้วยความสัมพันธ์อันดี ทำให้เกิดการกำหนดเป็นคณะทำงาน ความมั่นคง การท่องเที่ยว การค้า โครงสร้าง (สะพานฯ) จะร่วมมือกันเปลี่ยนเป็นพื้นที่การค้าขาย ส่วนเมื่อเช้าได้เดินทางไปสิงคโปร์ตามคำเชิญนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ได้พูดคุยกับประธานาธิบดีสิงคโปร์เรื่องการค้า พลังงานสะอาด การร่วมมือด้านทหาร ฝึกรบร่วมที่สัตหีบ การลงทุน เทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เชิญให้ผู้นำสิงคโปร์เดินทางมาไทย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เดินทางมาศูนย์บัญชาการฯ ด้วยความกังวลเรื่องความขัดแย้งอิสราเอล-ฮามาส ที่ขยับความรุนแรงขึ้น และมีคนไทยอยู่ในพื้นที่ ที่แสดงความต้องการเดินทางกลับประเทศ เกือบ 6 พันคน มีลอตแรกกลับมาแล้ว เข้าใจดีถึงความเป็นห่วงของญาติพี่น้องความกังวลของคนในพื้นที่ มีหลายปัญหาจากการลำเลียงคนกลับ ตอนนี้พูดคุยกันว่า กองทัพอากาศจะนำ C130 A340 เริ่มบินเข้าไป วันแรกจะออกจากไทยวันที่ 14 ต.ค. 2566 นำเสบียงเข้าไปด้วย และนำคนไทยกลับ 140 คน
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้สั่งการว่า การเว้นการเดินทาง โดยเดินทางไปรับอีกครั้งวันที่ 20 กว่า ถือว่าช้าเกินไป ที่ประชุมจึงเห็นชอบ สั่งการว่า ให้เตรียมตั้งแต่วันนี้ ให้เครื่องบินพร้อม นกแอร์มี 2 ลำ แอร์เอเชีย 2 ลำ การบินไทยจะให้คำตอบพรุ่งนี้ และด้วยเป็นเครื่องบินพิเศษ ต้องผ่านน่านฟ้า 4 ประเทศ โดยต้องใช้เวลา 2 วัน จึงสั่งการว่าให้เตรียมพร้อมเลย ขอให้จัดเป็นความสำคัญสูงสุด เอกอัครราชทูตไทยที่อิสราเอล แจ้งความพร้อมหากคนไทยพร้อมจะออกจากจุดเสี่ยงได้วันละ 200 คน ซึ่งไม่ทันกับความต้องการ ได้สั่งการให้หาวิธีที่เร็วขึ้น โดยให้ความสำคัญสูงสุดกับชีวิตประชาชน