แม่เชื่อไม้จิ้มฟันหลวงพ่อสุบรรณ คุ้มครองลูกชายปลอดภัย จากภัยสงครามในอิสราเอล แม้เครื่องบินรบจะบินข้ามหัวทุกวัน  นายจ้างต้องถือปืนป้องกันภัยให้กับลูกน้อง ขณะที่ลูกชายอยากกลับบ้านเพราะกลัวอันตราย


เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 12 ต.ค.2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 194 ม.5 บ.หนองบัวแดง ต.ตะกั่วป่า อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น โดยพบกับ นายอ้วน สกุลดี อายุ 66 ปี และนางอุบล ศิริโย  พ่อและแม่ของ นายกิตติศักดิ์ ช่างเสนา อายุ 30 ปี หรือน้องแบงค์ แรงงานไทยในอิสราเอล ที่ขณะนี้ยังคงปลอดภัยและทำงานตามปกติ ในพื้นที่ทางภาคเหนือของประเทศอิสราเอล

นายอ้วน   กล่าวว่า  ลูกชายทำงานในสวนเกษตร ตั้งแต่เดือน พ.ย. 2565  ขณะนี้จะครบ 1 ปีแล้ว  ซึ่งลูกชายมีครอบครัวและมีบุตร 2 คน โดยได้เลิกกับภรรยาแล้วและเลี้ยงลูก อยู่กับพ่อแม่ น้องแบงค์อยากมีเงินมีรายได้เลี้ยงลูก จึงตัดสินใจไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล และตั้งแต่ไปก็ติดต่อกลับมาหาพ่อแม่ทุกวัน

“ช่วงเกิดเหตุรุนแรงและสู้รบกันในอิสราเอลนั้น ลูกชายก็ยังทำงานสวนเกษตรตามปกติเพราะจุดเกิดเหตุกับสวนเกษตรที่ลูกชายทำงานอยู่นั้นอยู่ห่างจากพื้นที่ปะทะ และลูกชายก็จะถ่ายรูปที่มีเครื่องบินรบ บินผ่านพื้นที่ไปตลอดเวลา จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่คลี่คลาย รวมทั้งลูกชายยังส่งรูปคนไทยที่เสียชีวิตในสวนเกษตร ที่มีการแชร์กันในกลุ่มแรงงานคนไทย ส่งมาให้พ่อแม่ดูด้วย  เมื่อเห็นภาพต่างๆที่ลูกส่งมาให้ดู ก็หดหู่ใจ แต่ลุกบอกไม่ต้องห่วง เพราะที่พักอาศัยนั้นอยู่ในที่ปลอดภัย  ส่วนการทำงานนั้น เจ้านายก็จะถืออาวุธปืน คอยควบคุมดูแลทั้งการเดินทางและขณะทำงานตลอดเวลา จึงบอกให้ลูกชายกลับบ้านมาก่อน เมื่อทุกอย่างคลี่คลาย ปลอดภัยแล้ว ค่อยกลับไปทำงานอีกครั้งก็ได้  ซึ่งลูกชายก็บอกว่า อยากกลับแล้วเช่นกัน”

ด้าน นางอุบล   กล่าวว่า กำลังใจของพ่อแม่คือเห็นลูกปลอดภัย รวมถึงเชื่อมั่นและศรัทธาในวัตถุมงคลที่ลูกชายติดตัวไปจากประเทศไทย ทำให้ลูกอยู่รอดปลอดภัย คือไม้จิ้มฟันของหลวงพ่อสุบรรณ สิริธโร วัดถ้ำผาเกิ้ง อ.เวียงเก่า จ.ขอนแก่น เพราะขณะเกิดเหตุได้คุยกับลูกชาย และสอบถามถึงไม้จิ้มฟันของหลวงพ่อสุบรรณ ลูกบอกว่า พกใส่กระเป๋าสตางค์ติดตัวตลอดเวลา เมื่อถึงห้องพักก็วางไว้บนหัวนอน  จึงรู้สึกสบายใจว่าลูกชายทำตามที่หลวงพ่อแนะนำว่า ให้นำไม้จิ้มฟันติดตัวตลอด  จึงเชื่อได้ว่า ที่ลูกชายปลอดภัย ส่วนหนึ่งมาจากวัตถุมงคล ที่เป็นไม้จิ้มฟันของหลวงพ่อสุบรรณอีกด้วย