รรท.ผบช.ภ.4 แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาฆ่าอำพรางศพหนุ่มปล่อยเงินกู้ หนีกบดานที่ สปป.ลาว  ตามหมายจับศาลจังหวัดเลย ที่ 257/2566 ลง 24 ส.ค.2566
         
วันที่ 12 ตุลาคม  2566 ที่ บก.ภ.จว.หนองคาย พล.ต.ต.ไพศาล   ลือสมบูรณ์ รรท.ผบช.ภ.ร่วมกับ พล.ต.ต.อรรคพงศ์  พิมลศิริ รอง ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.พรชัย  ชลอเดช ผบก.ภ.จว.หนองคาย,พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส.ภ.4  พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งแถลงผลการจับกุม นายณัฏธ์ฐภัทร หรือจี๊ด อายุ 30 ปี (ผู้ต้องหา) ที่อยู่ อ.เชียงคาน จ.เลย ตามหมายจับศาลจังหวัดเลย ที่ 257/2566 ลง 24 ส.ค.2566 ฐานความผิด "ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือ ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และไม่มีเหตุจำเป็น ,ยิงปืน ซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช้เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมนุมซน, มี อาวุธปืน หรือ เครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต" หลังหลบหนีกลบดานใน สปป.ลาว ถูกเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สปป.ลาว นำตัวส่งกลับมาดำเนินคดี


        
 ด้วยเมื่อวันที่ 5 ก.ค.2566 เวลาประมาณ 17.00 น. พนักงานสอบสวน สภ.ท่าลี่ จ.เลย ได้รับแจ้งมีประชาชนพบโครงกระดูกเชื่อว่าเป็นโครงกระดูกของมนุษย์ ที่ เขตบ้านเมี่ยง ต.หนองผือ อ.ท่าลี่ จ.เลย สภาพเหลือแต่โครงกระดูกไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นผู้ใด จึงได้ประสานพิสูจน์หลักฐานจังหวัดเลย ร่วมตรวจสอบและได้ส่งโครงกระดูกตรวจพิสูจน์ จากการตรวจข้อมูลพบว่า เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.2566 ได้มีการแจ้งเป็นหลักฐานไว้ที่ สภ.วังสะพุง จ.เลย ว่า นายศรัณยู  สุปัญญา อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 ม.5 ต.โนนสัง อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู ได้หายตัวไปไม่สามารถติดต่อได้ โดยบอกกับญาติว่าจะออกไปเก็บเงินหนี้รายวันบนเขา แต่ไม่ทราบว่าไปที่ใด พนักงานสอบสวน สภ.ท่าสี่ จ.เลย จึงได้เก็บตัวอย่างดีเอ็นของญาติตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบ พบว่าดีเอ็นเอของโครงกระดูกนั้นตรงกับญาติ ซึ่งยืนยันได้ว่าโครงกระดูกดังกล่าว คือ โครงกระดูกของ นายศรันยู สุ ปัญญา ผู้ที่ถูกแจ้งหาย ซึ่งเชื่อว่าถูกคนร้ายฆ่าแล้วนำศพมาทิ้งจนเหลือแต่โครงกระดูกตังกล่าว  


         
 จากการสืบสวน ทราบว่า นายศรัณฯ(ผู้ตาย) มีอาชีพรับจ้างปล่อยเงินกู้ให้กับนายทุน โดยนายทุนเงินกู้ คือนายณัฏฐ์ฐภัทร หรือ นายจี๊ด ฯ ซึ่งจากการสอบถามเพื่อนสนิทได้ข้อมูลว่า นายศรันยูฯ ผู้ตาย มีพฤติกรรมติดการพนันและยักยอกเงินของนายทุนไป เมื่อเก็บเงินได้ก็ไม่ส่งให้นายทุน และนายทุนได้มีการทวงถามเงินคืนอยู่บ่อยครั้ง แต่นายศรันฯ ผู้ตาย ไม่นำเงินมาคืน จนกระทั่งวันที่หายตัวไปมีกล้องวงจรปิดจับภาพรถยนต์ยี่ห้อ อีซูซุ สีแดง (ขอปิดรายละเอียดทะเบียน) ซึ่งเป็นรถของ นายทุน ขับมารับนายศรันยูฯ ผู้ตาย หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้ จนกระทั่งมาพบโครงกระดูกดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้พยายามติดตามตัว นายณัฏธ์ฐภัทร หรือ นายจี๊ดฯ ซึ่งเป็นนายทุนเจ้าของเงินกู้ แต่ไม่สามารถติดต่อได้เชื่อว่าได้หลบหนีไปและเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามตรวจยีดรถยนต์คันที่เชื่อว่าเป็นรถที่ใช้ก่อเหตุได้


ขณะที่รถถูกนำไปจอดซุกซ่อนและเปลี่ยนสภาพที่อู่แห่งหนึ่ง ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดเลย และกองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดเลยเพื่อออกหมายจับ และเจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับกุมนายณัฏฐ์ฐภัทร หรือ จี๊ด อายุ 30 ปี  ตามหมายจับศาลจังหวัดเลยที่ 257/2566 ลง 24 สิงหาคม 2566
            
  ส่วน ผู้ต้องหา ให้การเบื้องต้นว่า ในวันเกิดเหตุตนกับผู้ตายได้นัดเคลียร์กัน โดยนั่งรถไปรถคันเดียวกัน แต่ตกลงกันไม่และได้เกิดการทะเล่าะกันจึงได้เลี้ยวรถเข้าไปป่าแล้วจอดรถ จากนั้นเกิดการชกต่อยกันขึ้น ผู้ตายสู้ไม่ได้เลยหันไปหยิบกิ่งไม้ใกล้ตัว ตนได้บอกกับผู้ตายให้หยุดแต่ผู้ตายไม่ยอมหยุด ตนจึงไปหยิบปืนในรถออกมาขู่ผู้ตายให้หยุดแต่ผู้ตายไม่ยอมหยุดและยังเดินเข้ามาจะทำร้ายตนตนจึงได้ใช้อาวุธปืนยิงสวนไป 1 นัด ถูกผู้ตายล้มลงและเสียชีวิตคาที่ จากนั้นตนจึงได้หลบหนีไปยัง สปป.ลาว  และก็ถูกเจ้าหน้าที่ สปป.ลาว จับกุมและส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ไทย ดังกล่าว 
          
  จากการสืบสวนทราบว่า นายณัฎฐ์ภัทร หรือ นายจี๊ดฯ ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปกลบดาน สปป.ลาว หลังจากก่อเหตุ ตำรวจภูธรภาค 4 จึงได้ประสานงานกับทางการของ สปป.ลาว ในการติดตามตัว จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัว และนำตัวกลับมามาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป