แรงงานไทยในอิสราเอล   ส่งคลิปให้ครอบครัวน้องโยที่ขอนแก่นดู หลังมีคลิปภาพถูกฮามาสจับเป็นตัวประกัน แม่เห็นหัวใจแทบสลาย เห็นลูกถูกจับ  ส่วนแฟนหนุ่มสันนิษฐานว่าถูกยิงเสียชีวิตแล้ว

เมื่อเวลา  15.00 น.วันที่ 12 ต.ค.2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ไปที่บ้านเลขที่ 159 ม. 14 ต.โคกสำราญ อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณี นางณัฐฐาวรี มูลกัน หรือ น้องโย อายุ 35 ปี แรงงานสาวชาวไทยในประเทศอิสราเอล ซึ่งถูกผู้ก่อการร้ายจับตัวไป ตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา  

นางบุญญาริน ศรีจันทร์  อายุ 56 ปี มารดาของน้องโย  กล่าวว่า   ตั้งแต่เกิดเหตุรุนแรงที่ประเทศอิสราเอล และทราบข่าวว่าลูกสาวถูกผู้ก่อการร้าย จับตัวไปพร้อมแฟนหนุ่มคือนายบุญถม พันธ์ฆ้อง อายุ 45 ปี ชาวบ้านหินโงม ต.หินโงม อ.สร้างคอม จ.อุดรธานี โดยครอบครัวต่างพากันติดตามข่าวสารในทุกช่องทาง แต่มาจนถึงวันนี้ ยังไม่ทราบชะตากรรมของน้องโยและแฟนเลย ทางราชการก็ไม่มีใครแจ้งเลยว่า การช่วยเหลือ หรืออะไรที่เกี่ยวข้องกับลูกสาวก็ไม่มีใครติดต่อมา หรือแจ้งมา

“ช่วงเกิดเหตุรุนแรง มีคนส่งคลิปที่ระบุว่าเป็นตัวประกันชาวไทยถูกจับกุมตัว โดยส่งมาให้กับญาติพี่น้องคนไทยและมีการส่งต่อๆกันมา แต่แม่ไม่กล้าดู เพราะไม่อยากเห็น จนกระทั่งคืนวันที่ 11 ต.ค.ได้มีนายอาร์ท  ซึ่งเป็นแรงงานไทยในอิสราเอลและเป็นเพื่อนสนิทแฟนของลูกสาว ได้ส่งคลิปเดียวกันมาให้ดู พร้อมกับแจ้งว่า คนใส่เสื้อสีขาวในคลิปคือน้องโย นอนขดในรถพ่วงที่ต่อจากรถไถ และเป็นคลิปที่กลุ่มผู้ก่อการร้ายถ่ายแล้วเผยแพร่ในอิสราเอล มีการส่งต่อกันในกลุ่มแรงงานไทย จึงส่งมาให้แม่ดู”

นางบุญญาริน กล่าวต่ออีกว่า จากการสอบถามนายอาร์ททราบว่า วันเกิดเหตุ ขณะนั่งดื่มกาแฟกัน ลูกสาวได้ชวนแฟนหนุ่มออกไปทำงานรับจ๊อบในวันหยุด จากนั้นก็ขี่จักรยานซ้อนท้ายกันออกไปจากแคมป์ที่พัก ก่อนจะถูกกลุ่มผู้ก่อการร้ายปล้นเอารถและจับไปเป็นตัวประกัน เพื่อนแรงงานทราบเรื่องหลังมีคลิปเผยแพร่ออกมา  แต่ทุกคนไม่ทราบว่า ผู้ก่อการร้ายนำตัวน้องโยและแฟนไปไว้ที่ใด  ส่วนนายบุญถมแฟนของลูกสาวนั้น เพื่อนแรงงานชาวไทยที่ได้คุย บอกว่าถูกยิงเสียชีวิตแล้ว แต่เพื่อนไม่กล้าบอกญาติ เพราะยังไม่เห็นศพคนตาย

"สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือครอบครัว ญาติพี่น้อง พากันตระเวนทำบุญ บนบานทุกที่ ที่ศักดิ์สิทธิ์ให้คุ้มครอบน้องโยให้มีชีวิตที่ปลอดภัย กลับมาหาแม่และลูกๆที่บ้าน เพราะในความจริงแล้ว น้องโยนั้น อีก 7 เดือนก็ครบสัญญาการทำงาน และจะได้กลับบ้านแล้ว  ส่วนนายบุญถมนั้น หมดสัญญางานแล้ว และหนีแท็ก ได้คบหากับลูกสาวและเป็นแฟนกัน ทำงานด้วยกัน ทั้งคู่คุยกันว่า จะเดินทางกลับบ้านพร้อมกัน และจะแต่งงานกัน แต่ทุกอย่างก็ต้องพังลง เพราะเกิดเหตุรุนแรงขึ้น จนได้รับผลกระทบ จึงขอภาวนาให้น้องโย และแฟนหนุ่มมีความปลอดภัยทั้งคู่"

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า แม่ของน้องโยได้โทรศัพท์หา นายอาร์ท ซึ่งรับสายและแจ้งว่า กำลังทำงานอยู่  ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามรายละเอียด ทราบว่านายอาร์ท ชื่อนายพิชัย สีเหลือง อายุ 38 ปี ชาวบ้านโนนเมือง ม.8 ต.โนนข่า อ.พล จ.ขอนแก่น ทำงานทางด้านการเกษตร อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุรุนแรง  แต่ในขณะนี้นายจ้างพาย้ายออกจากพื้นที่ ไปทำงานที่ใหม่ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ  โดยนายอาร์ท กล่าวเพียงสั้นๆว่า จุดอื่นๆยังเกิดเหตุสู้รบกัน แต่ในจุดที่ทำงานและพักอาศัยอยู่นั้น ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น และมีความปลอดภัยดี นายจ้างและเจ้าหน้าที่ดูแลคุ้มครองอย่างดี จึงยังไม่คิดที่จะกลับบ้าน แต่ถ้ามีความรุนแรงและมีผลกระทบ ก็จะลงชื่อขอกลับประเทศไทยทันที