ตำรวจ ทหาร ปกครองบุรีรัมย์ ไล่ล่าสกัดทีมขนลำเลียงยาบ้า ได้ที่ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ หลังได้นำยาบ้ามาส่งให้ลูกค้าใน จ.บุรีรัมย์ ได้ผู้ต้องหา 2 คน เป็นชาวบัวใหญ่ จ.นครราชสีมา พร้อมของกลางยาบ้า 18,000 เม็ด ขณะผู้ต้องหาชุดเซอร์เวย์เส้นทาง คนหมู่บ้านเดียวกันหลบหนีไปได้ เตรียมออกหมายจับ เผยแก๊งนี้เป็นทีมขนลำเลียงยาบ้า นำไปส่งมอบลูกค้าในหลายจังหวัด ทั้งภาคอีสานตอนบนและตอนล่าง
เมื่อวันที่ 12 ต.ค.66 พ.ต.ท.วิชาญ กระจ่างโพธิ์ รอง ผกก.สืบสวนฯ หัวหน้าชุดปฎิบัติการปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ (ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์), พ.ต.ต.สุวัฒน์ นามมงคล สว.สืบสวนฯ รองหัวหน้า ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ , ร.ต.อ.อลงกรณ์ ประจงเศรษฐ์ รอง สว.สส.ฯ พร้อมกำลังตำรวจ ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ ,ตำรวจ ชปส. ร้อย ตชด.215 , ตำรวจ ชปส.ร้อย ตชด.216 ,ตำรวจ ชปส.กก.ตชด.21 ,หน่วยปราบปรามยาเสพติด ขกท.ศปก.ทบ.(นฝด.22, ขกท.กกล.สุรนารี), เจ้าหน้าที่ทหาร สขว.กอ.กรมน. ,ทหารหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพราน ที่ 26 ,เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองบุรีรัมย์ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ได้สนธิกำลังติดตามจับกุมตัว นายวิจิตร(สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี กับนายธนากรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ทั้งคู่เป็นชาว อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ได้พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 18,000 เม็ด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนทราบว่า จะมีการนัดส่งมอบยาบ้าที่ได้มีการติดต่อซื้อขายจากผู้ค้าชาวลาว และจะมีคนไทยทำหน้าที่เป็นผู้ขนลำเลียง หรือนักบิน จะนำยาบ้ามาส่งมอบให้ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ จึงวางแผนจับกุม กระทั่งพบรถยนต์ต้องสงสัย จำนวน 2 คัน เป็นรถยนต์กระบะ กับรถยนต์เก๋ง ขับมุ่งหน้าเข้ามาในพื้นที่นัดหมาย โดยรถยนต์กระบะขับมาในลักษณะเหมือนจะตรวจดูเส้นทางล่วงหน้า จากนั้นรถยนต์เก๋งได้ขับเข้ามาจอด ที่บริเวณหลักกิโลเมตร ที่ 15 กิโลเมตรจะถึง อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ แล้วคนนั่งทางด้านซ้ายได้เปิดประตูลงจากรถไปที่หลักกิโลเมตร ก่อนจะรีบกลับขึ้นรถและขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปทางตัว อ.ประโคนชัย เพื่อมุ่งหน้าไปตามเส้นทาง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ขับรถยนต์สะกดรอยติดตามไป และมีเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมอีกชุดได้เข้าไปตรวจสอบที่บริเวณหลักกิโลเมตรดังกล่าว พบห่อพลาสติกสีดำ ภายในมียาบ้า 3 มัด หรือจำนวน 6,000 เม็ด บรรจุอยู่ข้างใน จึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมที่ติดตามไปทราบว่า เป็นรถยนต์ที่นำยาบ้ามาวางไว้ให้ จึงได้ขับติดตามไปเพื่อสกัดจับกุม
โดยมีรถยนต์กระบะขับล่วงหน้าไปก่อน และรถยนต์เก๋งขับตามไป และได้ขับผ่าน อ.ปราสาท มุ่งหน้า อ.สังขะ จ.สุรินทร์ และสามารถสกัดจับรถยนต์เก๋งที่นำยาบ้ามาวางไว้ที่หลักกิโลเมตรดังกล่าว ได้ที่บริเวณสี่แยกไฟแดงกระเทียม ต.กระเทียม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ พบตัว นายวิจิตร กับนายธนากรณ์ นั่งโดยสารมาในรถ และยังพบยาบ้าจำนวน 3 มัด หรือจำนวน 6,000 เม็ด วางซุกซ่อนอยู่ใต้เบาะคนขับ ส่วนรถยนต์กระบะได้ขับหลบหนีไปได้ก่อนหน้า
จากการสอบถามแล้วทั้งสองคน ให้การรับสาราภาพว่า ได้ร่วมกันนำยาบ้ามาวางส่งให้ลูกค้าตามพื้นที่ต่างๆ ทั้งในภาคอีสานตอนบนและอีสานตอนล่าง และในครั้งนี้ได้นำยาบ้ามาวางไว้ให้ลูกค้าแล้วในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ คือ อ.สตึก กว่า 10 มัด หรือจำนวน 20,000 เม็ด อ.บ้านด่าน 3 มัด หรือ 6,000 เม็ด และ อ.ประโคนชัย อีก 3 มัด หรือ 6,000 เม็ด ส่วนที่เหลือที่ถูกตรวจยึดได้ในรถอีก 3 มัด หรือ 6,000 เม็ด จะนำไปวางต่อให้กับลูกค้าที่ จ.ศรีสะเกษ โดยพวกตนเดินทางมาด้วยกันมีรถยนต์ 2 คัน อีกหนึ่งคัน คือ รถยนต์กระบะ ขับนำหน้าเพื่อตรวจดูเส้นทางและกำหนดจุดวางยาบ้า พร้อมกับโทรศัพท์ติดต่อให้ลูกค้ามาเก็บเอายาบ้า ส่วนพวกตนจะทำหน้าที่วางยาบ้าตามจุดต่างๆ ที่รถยนต์กระบะเป็นผู้กำหนด ซึ่งยอมรับว่าเคยทำร่วมกันทำมาแล้วหลายครั้ง ในหลายจังหวัดทางภาคอีสาน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวทั้งสองคน พาไปตรวจยึดยาบ้าจำนวน 3 มัด หรือ 6,000 เม็ด ที่นำมาวางไว้บริเวณหลักกิโลเมตรดังกล่าว คือบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 139 ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 24 ถนนโชคชัย-เดชอุดม ต.อีสานเขต อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ และนำไปชี้จุดตรวจยึดยาบ้าที่บริเวณหลักกิโลเมตรในพื้นที่ อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ก็พบยาบ้า 3 มัด หรือจำนวน 6,000 เม็ด วางซุกซ่อนอยู่บริเวณหลังหลักกิโลเมตร
ส่วนจุดที่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ไม่พบยาบ้าซึ่งคาดว่าน่าจะมีลูกค้ามาเก็บเอาไปแล้ว จึงนำตัวทั้งสองคนมาสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะสืบสวนขยายผลติดตามผู้ร่วมขบวนการที่หลบหนีมาดำเนินตามกฎหมายต่อไป.