วันที่ 12 ต.ค.2566 เวลา 10.30 น.ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาฯ ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภา เป็นประธานในการประชุม ทั้งนี้ที่ประชุมได้พิจารณากระทู้สดเกี่ยวกับผลกระทบต่อแรงงานไทยในประเทศอิสราเอลที่มีสถานการณ์สู้รบ ของนายวัชระพล ขาวขำ สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ถามรมว.ต่างประเทศ แต่ได้มอบหมายให้นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.การต่างประเทศ ตอบกระทู้ถามสดแทน ว่า ตั้งแต่เสียงปืน เสียงจรวด เมื่อวันเสาร์ที่ 7 ต.ค.ขึ้นที่ประเทศอิสราเอล ตนได้รับร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่จำนวนมากขอให้ช่วยเหลือแรงงานไทยที่ไปทำงาน เฉพาะในพื้นที่ของตนมีแรงงานไปทำงานมากกว่าพันคน หลายครอบครัวเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย อยากให้รัฐบาลช่วยเหลือเร่งด่วน จึงอยากถามว่า 1.อยากทราบข้อมูลที่เปิดเผยได้ของกระทรวงการต่างประเทศในสถานการณ์ปัจจุบันอย่างเป็นทางการ 2.มีมาตรการรับมืออย่างไรหากภาวะสงครามขยายวงกว้างออกไปและ3.ผลกระทบที่ได้รายงานอย่างเป็นทางการต่อคนไทยเป็นอย่างไร มีจำนวนเท่าไหร่
โดยนายจักรพงษ์ ชี้แจงว่า สถานการณ์ล่าสุดพบว่ามีคนไทยที่เสียชีวิต รวม 21 คน ซึ่งเป็นรายงานจากนายจ้าง ไม่ใช่คำยืนยันอย่างเป็นทางการจากประเทศอิสราเอล ทั้งนี้อิสราเอลขอเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อยืนยันตัวตนผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้อิสราเอลจะเยียวยาจากเหยื่อสงคราม ขณะที่ผู้บาดเจ็บมี 14 คน เอกอัครราชทูตได้เข้าเยี่ยมแล้ว สำหรับผู้ที่บาดเจ็บเล็กน้อยจะถูกส่งตัวกลับไทย โดยจะมาถึงประเทศไทยในวันนี้ (12 ต.ค.) สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะสงครามจะได้รับการเยียวยาตามกฎหมาย เช่น เงินสงเคราะห์ 15,000 บาท กรณีพิการ 15,000 บาท กรณีทุพพลภาพ 30,000 บาท ค่าจัดงานศพในต่างประเทศเท่าที่จ่ายจริงหรือไม่เกิน 40,000 บาทเป็นต้น นอกจากนั้นยังมีการเยียวยาทางจิตใจของครอบครัวผู้ที่ได้รับผลกระทบและสูญเสียด้วย
“เมื่อคืนวันที่ 11 ต.ค.นายกฯ สั่งการมาที่กระทรวงการต่างประเทศเพื่อหาช่องทางอพยพคนไทยออกมาจากพื้นที่ให้มากที่สุด ทั้งทางอากาศ น้ำ และทางบก แต่ภาวะสู้รบที่มีต่อเนื่องทำให้การช่วยเหลือเป็นไปได้ยาก” นายจักรพงษ์ กล่าว
นายจักรพงษ์ กล่าวว่า สำหรับคนไทยที่ถูกลักพาตัวหรือจับเป็นตัวประกันมีทั้งสิ้น 16 คน กระทรวงการต่างประเทศใช้ความพยายามเต็มที่สื่อสารไปยังกลุ่มฮามาสว่าคนไทยไม่ได้เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง แต่ปาเลสไตน์ไม่มีทูตประจำประเทศไทย ดังนั้นกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานไปยังทูตต่างชาติที่ประจำในไทย ซึ่งมีความสัมพันธ์กับปาเลสไตน์ รวมถึงกลไกอาเซียนเพื่อให้ปล่อยตัว รวมถึงองค์กรนานาชาติ เช่น หน่วยงานที่เกี่ยวกับมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ ให้ช่วยเหลือด้วย ทั้งนี้พบว่ามีคนไทยที่ได้รับผลกระทบประมาณ 5,000 คนจาก คนไทยในอิสราเอล 30,000 คน
นอกจากนี้นายจักรพงษ์ ยังได้ชี้แจงต่อกระทู้ถามของนายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคก้าวไกล ซึ่งอ้างว่าได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ประสบภัยในประเทศอิสราเอลที่ต้องการอพยพออกจากพื้นที่ที่คาดว่าจะเพิ่มเป็น 7,000 คน เกี่ยวกับมาตรการเชิงรุกของรัฐบาลไทย การจัดพื้นที่พักคอยที่ปลอดภัยเพื่อรอการอพยพ รวมถึงการเยียวยาผู้เสียหาย และแรงงานที่ถูกเอาเปรียบจากนายจ้างว่า การพูดคุยโทรศัพท์ตามที่อ้างว่าได้คุยกับแรงงาน ตนไม่ต่างกัน เพราะได้คุยกับเอกอัครราชทูตที่ดูแลพื้นที่ พบว่ามีการสู้รบต่อเนื่อง ตนห่วงคนไทยทุกคน รวมถึงข้าราชการไทยในสถานการณ์สู้รบ ต้องยอมรับว่ามีข้อจำกัดในพื้นที่ การขับรถต้องขออนุญาตจากอิสราเอล เพราะเคยมีกรณีที่ไม่ได้ขออนุญาตทำให้เกิดความเข้าใจผิดมาแล้ว
นายจักรพงษ์ กล่าวด้วยว่าสำหรับประเด็นที่แรงงานถูกเอาเปรียบได้หารือกับกระทรวงแรงงานเพื่อดูแลและแก้ปัญหา ทั้งนี้แรงงานไทยทั่วประเทศ 30,000 คน ได้ติดต่อเช่นกัน แต่แรงงานไม่ทรารบว่าตนเองอยู่ในพื้นที่ไหน เนื่องจากถูกอพยพออกจากพื้นที่ สถานทูตไทยประจำอิสราเอลใช้ทุกอย่างที่มีอยู่จำกัดได้ส่งเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมเพื่อดูแลเหตุการณ์โดยรอบ สำหรับแรงงานคนไทยที่มี 30,000 คนอยู่ที่อิสราเอล ซึ่งในพื้นที่มีศูนย์อาร์ซี รับเรื่องร้องเรียนไว้และติดต่อไปยังแรงงานทุกคน
"กระทรวงการต่างประเทศได้หารือกับหลายประเทศที่อยู่รอบด้านอิสราเอล แต่ขณะนี้พบว่าการเดินทางไปชายแดนประเทศต่างๆ มีความเสี่ยงและปิดชายแดน แม้ทูตจะประสานอิสราเอลขอรถเพื่อเคลื่อนย้าย แต่พบว่ามีความเสี่ยงเช่นกันเนื่องจากมีการสู้รบยิงจรวดเข้าพื้นที่อย่างต่อเนื่องเช่นกัน ในพื้นที่เสี่ยงสูงทางอิสราเอลจะเป็นผู้ดำเนินการให้ออกมาจากพื้นที่เสี่ยงไปยังพื้นที่ปลอดภัย" นายจักรพงษ์ กล่าว