“นภินทร” มอบนโยบายเชิงรุก ใช้กลไกทรัพย์สินทางปัญญาสร้างแต้มต่อให้ภาคธุรกิจผลักดันสินค้า GI ทุกมิติ พร้อมวางแนวทางป้องกันการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ตั้งเป้าพาประเทศไทยก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง
 
​นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายการทำงานให้กับกรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับนายปัญญา ชวนบุญ ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ นายกฤษฏ์ เพ็ญสุภา ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.พาณิชย์ และคณะทำงานฯ โดยชื่นชมการทำงานเชิงรุกของกรมทรัพย์สินทางปัญญา เชื่อมั่นช่วยพัฒนาขีดความสามารถ SMEs พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง

​นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยทรัพย์สินทางปัญญาเป็นอีกหนึ่งนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญ เป็นกลไกที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการ และส่งเสริมผู้ประกอบการทุกระดับให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน โดยการมอบนโยบายครั้งนี้ได้เน้นย้ำให้กรมทรัพย์สินทางปัญญาเร่งดำเนินภารกิจสำคัญตามนโยบายหลักของกระทรวงพาณิชย์ ประกอบด้วย การส่งเสริมสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ในทุกมิติ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากและสร้างรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืน การเพิ่มประสิทธิภาพการจดทะเบียนโดยกำหนดกรอบระยะเวลาพิจารณาคำขอให้ชัดเจน เพื่อเร่งปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของคนไทย การยกระดับงานบริการต่างๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันให้ผู้ประกอบการไทย สร้างแต้มต่อให้พร้อมแข่งขันในเวทีโลก รวมทั้งวางแนวทางในการป้องกันการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทั้งในและต่างประเทศอย่างเป็นรูปธรรม

โดยเบื้องต้นได้รับรายงานจากกรมทรัพย์สินทางปัญญาถึงความพร้อมในการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว ซึ่งภารกิจเร่งด่วนที่สามารถดำเนินการได้ทันที อาทิ การให้บริการจดทะเบียนออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ ผ่านระบบ e-Filing e-Payment e-Billing และ e-Certificate การเพิ่มประสิทธิภาพการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาแบบเร่งด่วน โดยเร่งรัดการพิจารณาคำขอสิทธิบัตรในกลุ่มอุตสากรรมอาหารแห่งอนาคตให้ได้รับจดทะเบียนรวดเร็วยิ่งขึ้น การติดอาวุธผู้ประกอบการไทยให้สามารถต่อยอดธุรกิจด้วยทรัพย์สินทางปัญญา โดยมีศูนย์ให้คำปรึกษาด้านทรัพย์สินทางปัญญา (IPAC) คอยให้คำแนะนำแก่ผู้ประกอบการตั้งแต่ต้นน้ำจนปลายน้ำ การสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้า GI ผ่านการขึ้นทะเบียนทั้งในและต่างประเทศ การจัดทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้า การขยายช่องทางการตลาด พร้อมส่งเสริมการใช้ประโยชน์หลังจากสินค้าท้องถิ่นได้รับการขึ้นทะเบียน GI แล้ว ทั้งการเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยว และนำวัตถุดิบ GI มารังสรรค์เป็นเมนูระดับไฟน์ไดนิ่งประจำร้านอาหารหรือโรงแรมในจังหวัดต่างๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ และสร้างเม็ดเงินเข้าสู่ชุมชนมากยิ่งขึ้น เป็นต้น

​นอกจากนี้ กรมทรัพย์สินทางปัญญายังเตรียมดำเนินโครงการขยายผลความสำเร็จในการผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ไทยด้วยทรัพย์สินทางปัญญา ในอุตสาหกรรมที่ไทยมีศักยภาพ ทั้งด้านกีฬา ดนตรี ศิลปะ การ์ตูนออนไลน์ และอาหารไทย ควบคู่ไปกับการวางมาตรการป้องกันการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะ
ในประเทศจีน ซึ่งกรมฯ อยู่ระหว่างหารือความร่วมมือด้านการบังคับใช้สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาร่วมกับสำนักงานกำกับดูแลตลาดแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ตลอดจนการปราบปรามการละเมิดฯ ในพื้นที่การค้าตามแนวชายแดน เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจการค้าในพื้นที่ดังกล่าวอีกด้วย