ด้วยสถานการณ์สัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่า นักท่องเที่ยวได้ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงอย่างมากถึง 75,093 คน เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนบางส่วนออกเดินทางตั้งแต่สัปดาห์ก่อนหน้าในช่วง Golden Week เพื่อหลีกเลี่ยงความแออัด และความกังวลต่อความปลอดภัยจากเหตุการณ์ที่สยามพารากอน จึงทำให้ภาครัฐและททท.ต้องเร่งฟื้นฟู และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว

นทท.ต่างชาติลดลงจากหลายปัจจัยลบ

โดย นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า  ภาพรวมจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเที่ยวไทยในสัปดาห์นี้มีทั้งสิ้น 497,966 คน ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า 54,453 คน คิดเป็นร้อยละ 9.86  จากการสำรวจข้อมูลเมื่อวันที่ 8 ต.ค. 66 ซึ่ง 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ มาเลเซีย จีน อินเดีย เกาหลีใต้ และลาว ซึ่งนักท่องเที่ยวลาว มีการปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อนหน้า ร้อยละ 1.16 ในขณะที่ นักท่องเที่ยวจีน เกาหลีใต้ มาเลเซีย และอินเดีย ปรับตัวลดลง ร้อยละ 29.47 ร้อยละ 26.77 ร้อยละ 20.43 และร้อยละ 8.22  ตามลำดับ

อีกทั้งกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬายังคาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในสัปดาห์ถัดไป จะมีการปรับตัวลดลงในหลายภูมิภาค โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียตะวันออกและภูมิภาคโอเชียเนีย ด้วยนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศยังกังวลต่อสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสที่ปะทะรุนแรง อีกทั้งการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวระหว่างประเทศและในประเทศ ยังคงได้รับแรงกดดันต่อเนื่องจากราคาต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเหตุการณ์สู้รบ และภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว

หารือมาตรการแนวทางฟื้นฟูความเชื่อมั่น

ด้าน นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ได้ร่วมหารือกับ ประธานสภาอุตสาหกรรม รวมถึงนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว สายการบินไทย-จีน  เพื่อรับทราบสถานการณ์ความเชื่อมั่น ต่างๆ  พร้อมทั้งหารือมาตรการแนวทางฟื้นฟู และสร้างความเชื่อมั่นใหม่ในกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวจีน ภายหลังจากสถานการณ์กราดยิงในศูนย์การค้าสยามพารากอน

ทั้งนี้ ททท. มีแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่าน Soft Power (5F) ของไทย รวมถึงการใช้ Influ marketing และเจาะกลุ่ม Subculture คุณภาพ และทรงอิทธิพล อาทิ fandom ต่างๆ มายังประเทศไทย รวมถึงการทำ frequency Famtrip และส่งเสริมการขาย passoprt Privilege ซึ่งจะสร้างรายได้ให้กับธุรกิจและการบริการท่องเที่ยวของประเทศไทยทั้งระบบ   

ปัจจุบัน ททท. ให้ความสำคัญกับตลาดจีนเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพ โดยมีการส่งเสริมการตลาดให้เกิดประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ดีกับประเทศไทย ซึ่งสถานการณ์ตัวเลข นักท่องเที่ยวจีนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม –วันที่ 7 ตุลาคม 2566  มีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาประเทศไทยแล้วทั้งสิ้น 2,571,934 คน และ ททท. เป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวภายในสิ้นปี ไม่น้อยกว่า 4 ล้านคน

ส่งเสริมท่องเที่ยวระหว่างประเทศร่วมกัน

พร้อมกันนี้ นางสาวฐาปนีย์ ยังกล่าวต่อว่า  ททท.ยังได้ขับเคลื่อน Two Way Tourism หวังกระตุ้นยอดนักท่องเที่ยวมจากญี่ปุ่นช่วงดค้งสุดท้ายของปี โดยร่วมกับสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย  หารือแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกัน ทั้งในมิติของการแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวระหว่างกันและการส่งเสริมเศรษฐกิจ การค้าการลงทุนร่วมกันในอนาคต  

นอกจากนี้ ททท.ได้พยายามที่จะส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ในพื้นที่เมืองรอง อาทิเช่น เมืองโบราณศรีเทพ ที่เพิ่งได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยยูเนสโกเพื่อให้นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นซึ่งชื่นชอบแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ได้เดินทางมาท่องเที่ยวกันมากขึน

อีกทั้งยังผลักดันส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น หรือ Two Way Tourism โดยให้ความสำคัญกับการแลกเปลี่ยนทางการค้า วัฒนธรรมและการท่องเที่ยวร่วมกัน เพื่อให้เกิดการกระจายนักท่องเที่ยวจากเมืองหลักไปยังเมืองรองระหว่างกัน ผ่านการออกแบบเส้นทางให้ครอบคลุมพื้นที่ใกล้เคียง ตลอดจนการเพิ่มช่องทางในการเดินทางเข้าถึงพื้นที่ของทั้งสองฝั่ง เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ได้แก่ การเปิดเที่ยวบินตรงจากประเทศญี่ปุ่นมายังสนามบินในเมืองท่องเที่ยวหลักของไทย ได้แก่ เชียงใหม่ หรือภูเก็ต โดยเฉพาะสนามบินเชียงใหม่ ที่จะเตรียมเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง อันเป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทางและเกิดการกระจายของนักท่องเที่ยวให้มากยิ่งขึ้น และเป็นการสนองตามนโยบายของ นรม. และ รมว.กก. ท่านใหม่ที่ต้องการให้นำเสนอประเทศไทยว่าสามารถเที่ยวได้ 365 วัน

โดยปัจจุบัน ททท. ให้ความสำคัญกับตลาดญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพ โดยมีการส่งเสริมการตลาดให้เกิดประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ดีกับประเทศไทย ซึ่งสถานการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – วันที่ 30 กันยายน 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเดินทางมาประเทศไทยแล้ว 574,740 คน

ในขณะที่ ตั้งแต่เดือนมกราคม  -สิงหาคม  2566 มีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปท่องเที่ยวญี่ปุ่นแล้ว จำนวน 580,600 คน (ข้อมูลจาก JNTO) และ ททท. คาดการณ์ว่า ภายในสิ้นปีนี้ จะมีจำนวนของนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่จะเดินทางมาประเทศไทยประมาณ 870,000 คน