"ศรคม กิจประสาน"ปักหมุดเกาะยาวใหญ่ผุดรีสอร์ทหรูภายใต้แบรนด์ ”อนันตรา”

สำหรับเกาะยาวใหญ่ จังหวัดพังงา ถือเป็นสถานที่อันซีนอีกแห่งหนึ่ง โดยปัจจุบันมีโรงแรมระดับมาตรฐานเพียง 5 แห่ง โดยตัวเกาะอยู่ในรัศมีที่ไม่ไกลจากสนามบินนานาชาติกระบี่และภูเก็ต สามารถเดินทางท่องเที่ยวหมู่เกาะกระบี่ หมู่เกาะพังงา หมู่เกาะภูเก็ตได้อย่างสะดวก ภายในเกาะยังมีน้ำตก และแหล่งท่องเที่ยววิถีชุมชนที่น่าสนใจ ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติที่ชื่นชอบความงดงามทางธรรมชาติ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ไม่แปลกที่ อนันตรา เกาะยาวใหญ่ รีสอร์ท แอนด์ วิลล่าส์ จะปักหมุดบนเกาะนี้ ด้วยพื้นที่ 146 ไร่ มีหน้าหาดยาวถึง 1 กิโลเมตร ซึ่งในเรื่องนี้ นายศรคม กิจประสาน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ศรญา ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ได้สะท้อนแผนการดำเนินงาน โดยการนำแบรนด์อนันตราเข้ามาช่วยบริหารได้อย่างน่าสนใจ

อภิมหาโครงการบนเกาะยาวใหญ่

ซึ่ง นายศรคม กิจประสาน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ศรญา ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด กล่าวว่า ด้วยประสบการณ์ในธุรกิจโรงแรมมา 18 ปี ผ่านการทำงานร่วมกับเชนโรงแรมระดับสากลมาเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเมื่อได้ทำเลบนเกาะยาวใหญ่ ที่มีความสมบูรณ์พร้อมของธรรมชาติ จึงต้องพิเศษกว่าโครงการทั่วไป โดยเฉพาะการได้แบรนด์อนันตราเขามาช่วยบริหารถือเป็นสมการที่ลงตัว

สำหรับธุรกิจโรงแรมเป็นเพียงเฟสแรก ซึ่งประกอบไปด้วยตัวรีสอร์ต 148 ห้อง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เปิดตัวเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2566  มูลค่าการลงทุนทั้งหมด รวมที่ดินกว่า 3.4 พันล้านบาท ส่วนเฟสที่ 2 เป็นวิลล่าบนภูเขา บนพื้นที่ 41 ไร่ จำนวน 30 หลัง มีทั้ง 1-2 ห้องนอน สามารถชมวิวหมู่เกาะพังงาได้อย่างเต็มตา งบลงทุนประมาณ 760 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงไฮซีซั่นเดือนธันวาคม 2567

ขณะที่เฟส 3 จะเป็นโครงการที่อยู่อาศัย พื้นที่รวมกว่า 40 ไร่ เริ่มก่อสร้างจำนวน 6 หลัง แต่ละหลังติดชายหาดยาว 50 เมตร พื้นที่ใช้สอย 2,250 ตารางเมตร มี 8 ห้องนอน พร้อมห้องสปา ฟิตเนส และสระว่ายน้ำ เริ่มต้นหลังละ 6.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ปัจจุบันมีการจองแล้ว 2 หลัง รวมงบลงทุนในส่วนนี้ประมาณ 2 พันล้านบาท

ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย

โดย นายศรคม กล่าวว่า แรงบันดาลใจในการสร้างห้องพักที่เกาะยาวใหญ่ เป็นการตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย ด้วยนักท่องเที่ยวที่เข้ามาแล้วจะต้องได้พักผ่อนเพลิดเพลินกับธรรมชาติ และสิ่งอำนวยความสะดวก พร้อมด้วยบริการที่ดี  สามารถตอบโจทย์นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติที่ชื่นชอบความงดงามทางธรรมชาติ ทั้งกลุ่มครอบครัว คู่รัก วัยเกษียณ การจัดเลี้ยงแต่งงานหรือประชุมสัมมนา

แต่ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับการเป็น The Best Destination ดังนั้นจึงได้ใส่รายละเอียดที่คัดสรรมาอย่างตั้งใจจัดแบบให้เหนือความคาดหมาย ตั้งแต่ห้องพักขนาดเริ่มต้น 90 ตารางเมตรขึ้นไป มีทั้ง 1-2 ห้องนอน ทั้งแบบสวีท แฟมิลี่ พูลวิลล่า และเพนท์เฮ้าส์ โดยมีไฮไลต์เป็น ซีวิว พูล เพนท์เฮาส์​ แบบ 2 ชั้น ขนาด 366 ตารางเมตร จำนวน 8 ห้อง จุดเด่นคือสระว่ายน้ำส่วนตัวบนดาดฟ้า ที่มองเห็นวิวทะเลได้อย่างกว้างไกล แต่คงไว้ซึ่งความเป็นส่วนตัว ส่วนสายครอบครัว มีห้องแบบแกรนด์ ซีวิว แฟมิลี่ สวีท กว้าง 192 ตารางเมตร มาพร้อมห้องนอนคุณหนูแบบเตียงสองชั้นที่เพิ่มลูกเล่นด้วยบันไดและสไลเดอร์ และส่วนของห้องที่ใกล้ชิดติดชายหาดกับ บีช ฟร้อนท์ พูล วิลล่า ขนาด 198 ตารางเมตร ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากบ้านฮอบบิทในนิวซีแลนด์ เป็นต้น

ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและชุมชน

ซึ่ง นายศรคม กล่าวต่อว่า ด้วยเข้าใจถึงความต้องการที่แตกต่างของลูกค้าแต่ละกลุ่ม จึงมีห้องให้เลือกหลากหลายรูปแบบ แต่ละแบบมีสไตล์ที่ไม่เหมือนกัน กลับมาอีกกี่ครั้งก็สร้างชีวิตชีวาและประสบการณ์ใหม่ได้อยู่เสมอ และที่สำคัญทุกห้องต้องนำเสนอการพักผ่อนอย่างสะดวกสบาย กว้างขวาง ครบครัน และมองเห็นวิวทะเล แม้ทำเลที่ตั้งบนเกาะที่เป็นปัจจัยหนึ่งในการทำให้งบการลงทุนก่อสร้างสูงกว่าบนฝั่งขยับเป็น 3 เท่าตัวก็ตาม

รวมไปถึงในส่วนของคิดส์คลับของที่นี่ ซึ่งมีขนาดใหญ่สำหรับเด็กวัย 4-12 ปี และโซนเด็กวัยหัดเดิน 1-4 ปี พร้อมห้องพักผ่อนของเด็ก ๆ มีสระว่ายน้ำสำหรับครอบครัวพร้อมสไลเดอร์น้ำขนาดใหญ่ถึง 4 จุด รวมทั้งสระน้ำตื้นสำหรับเด็ก

อีกทั้งในรีสอร์ตยังมีสปาและฟิตเนสมาตรฐานขนาดใหญ่ รองรับคนรักสุขภาพ ความงาม และการผ่อนคลาย นอกจากนั้นยังมีห้องอาหาร บาร์ และบีชบาร์อีกหลายมุมให้เลือก

พร้อมกันนี้ นายศรคม กล่าวว่า ด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์คือจุดแข็งและจุดขายของอนันตรา เกาะยาวใหญ่  ดังนั้นนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและการมีส่วนร่วมของชุมชนจึงเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก เริ่มจากการจ้างงานคนในพื้นที่ จาก 10% ในช่วงเริ่มต้น และเพิ่มเป็น 30% จากพนักงานทั้งหมดในปัจจุบัน มีแหล่งน้ำจืดในพื้นที่ 10 ไร่ที่ซื้อที่มาจากชาวบ้านเพื่อสร้างบ่อเก็บน้ำ พร้อมวางระบบท่อ และระบบกรองใช้ในโครงการโดยไม่เบียดเบียนประปาชุมชน และน้ำที่ผ่านการใช้งานจะผ่านระบบบำบัด และนำกลับมาใช้สำหรับดูแลสวนภายในพื้นที่ทั้งหมด อีกทั้งยังมีการจัดการขยะอย่างเป็นระบบ พร้อมการนำเข้าเครื่องจักรสำหรับการเผาขยะที่ปลอดมลพิษ

ส่วนอีกนโยบายที่จริงจัง คือ การคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติ ด้วยลักษณะพิเศษของชายหาดในแถบนี้จะมีกองทัพปูนับพันนับหมื่นตัววิ่งเล่นอยู่บนผืนทราย ทางรีสอร์ทจึงได้ออกกฎระเบียบห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวจับปูเหล่านั้นอย่างเด็ดขาด