วันที่ 11 ต.ค.2566 เวลา 14.20 น. ที่รัฐสภา นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การสวัสดิการสังคม สภาฯว่า ที่ประชุมได้มีการเลือกตำแหน่งต่างๆ พร้อมวางกรอบการทำงาน เรื่องสวัสดิการสังคมยอมรับว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่มั่นคงเท่าไหร่ ทั้งเรื่องเบี้ยผู้สูงอายุที่ไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตจริงๆ หรือเรื่องเบี้ยผู้พิการ เบี้ยเด็กแรกเกิด ที่มีปัญหามาโดยตลอดทำให้ประชาชนไม่ค่อยมั่นใจในระบบสวัสดิการ ซึ่งในครั้งนี้ตนได้เป็นประธานกมธ. อยากจะทำเรื่องของระบบสวัสดิการให้ประชาชนในสังคมมั่นใจให้ได้ ฉะนั้นต้องทำงานร่วมกับกระทรวง รัฐมนตรี ที่จะต้องปรับเปลี่ยนแนวคิดแบบใหม่ว่า เงินที่ประชาชนจะได้รับเป็นสวัสดิการเป็นสิทธิของประชาชนทุกคน ไม่ใช่เป็นสิทธิของหน่วยงานภาครัฐว่าจะให้เมื่อไหร่ก็ได้ หรือให้เท่าไหร่ จะไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว โดยเรื่องนี้จะหยิบยกขึ้นมาในวาระของการเป็นประธานกมธ.ที่อยากจะผลักดัน
เมื่อถามว่า ในการประชุมครั้งถัดไปจะมีการเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือมีการหารือประเด็นไหนหรือไม่ นายณัฐชา กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าจะเชิญหน่วยงาน ทั้งกรมกิจการผู้สูงอายุ กรมบัญชีกลาง ตัวแทนของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ซึ่งทั้ง 3 หน่วยงาน ในช่วงก่อนยุบสภามีเรื่องของการออกหลักเกณฑ์การจ่ายเบี้ยผู้สูงอายุแบบใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนตั้งคำถามและยังไม่ชัดเจน ฉะนั้นในเมื่อมีกลไกของกมธ.แล้วก็จะผลักดันเรื่องนี้ และจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดำเนินให้ชัดว่าประชาชนจะคงได้รับเงินผู้สูงอายุต่อไป หรือมีหลักเกณฑ์ในการปรับขึ้นเพิ่มหรือไม่ เพราะทุกพรรคการเมืองในช่วงหาเสียงเลือกตั้งได้มีการพูดถึงเบี้ยผู้สูงอายุแต่หลังเลือกตั้งเรื่องนี้กลับเงียบหายไป ดังนั้นกมธ.สวัสดิการฯ จะเป็นบทบาทหลักสำคัญในการทำหน้าที่เรื่องนี้
นายณัฐชา กล่าวถึงการเดินทางไปประเทศเยอรมันวันที่ 5 ต.ค.ว่าความจริงตนไปตั้งแต่วันที่ 1-9 ต.ค.ไปดูการเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งคิดมาล่วงหน้า 1 ปี ร่วมกับมูลนิธิฮันส์ ไซเดล และสภาแห่งมลรัฐบาวาเรีย ซึ่งเป็นการอนุญาตของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ส่วนกำหนดการประชุมกมธ.ที่ไม่มีความแน่นอน ซึ่งความจริงจะมีการประชุมกมธ.นัดแรกก่อนวันเดินทางด้วยซ้ำ ซึ่งตนคิดว่าจะแล้วเสร็จก่อนวันเดินทาง แต่สุดท้ายก็มีการขยับไปจนถึงวันเดินทางพอดี ซึ่งเราได้ทำหนังสือชี้แจงมาแล้ว สิ่งที่เราเดินทางไปเพื่อเป็นตัวแทนของประเทศไทยที่จะเดินทางศึกษาดูงานเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่น โดยการเดินทางในครั้งนี้ได้มีการพบปะกับมุขมนตรีของรัฐบาวาเรีย และท่านทราบถึงความวุ่นวายของกมธ. และเห็นว่าตนเป็นแคนดิเดตประธานของกมธ.สวัสดิการฯ จึงได้พาไปดูบ้านเอื้ออาทรแห่งแรกของโลกอยู่ที่เมืองเอาก์บวร์ก โดยตนอยากจะนำหลักเกณฑ์มาพัฒนาในพื้นที่ประเทศไทยด้วย
เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่านายณัฐชาล็อบบี้ ส.ส.ในกมธ.ไม่ให้เข้าประชุม นายณัฐชา กล่าวว่า ได้มีการโทรพูดคุย เพราะการนัดประชุมนัดแรกจะต้องเป็นการตกลงร่วมกัน ดังนั้นเมื่อเห็นว่าในการประชุมนัดแรกในวันที่ตนไม่อยู่ ก็ได้มีการโทร ซึ่งรายชื่อก็ทราบในวันนั้นและตนได้โทรหาคนที่รู้จักโดยระบุว่า ในวันนั้นตนไม่อยู่ ขอให้เลื่อนเป็นวันที่ 11 ต.ค.เราเป็นคนโทรไปเพื่อขอเลื่อนเอง เพราะเป็นการตกลงร่วมกันของทั้งคณะ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่จะมีการตกลงร่วมกันว่าจะประชุมวันไหน แต่มี ส.ส.ใหม่ที่ตนไม่มีเบอร์จึงไม่ได้โทรแจ้งด้วยตนเอง แต่แจ้งผ่านเพื่อน ส.ส.ที่อยู่พรรคเดียวกัน ซึ่งอาจจะไม่ได้แจ้ง หรือไม่ได้บอกกัน จึงมีการเปิดประชุมขึ้นมา
"ในวันที่ 5 ต.ค. ผมได้โทรเข้ามาในที่ประชุม และบอกว่า ต้องขอโทษด้วย ผมติดภารกิจจริงๆ และภารกิจที่ผมติดนั้นเป็นภารกิจที่ได้รับการอนุญาตจากประธานสภาฯแล้ว และที่เดินทางมาโดยคำเชิญของสภาแห่งมลรัฐบาวาเรีย ซึ่งผมได้ชี้แจงให้ทุกท่านทราบ และทุกท่านบอกว่าไม่เป็นไร เลื่อนเป็นอาทิตย์หน้าก็ได้ไม่มีปัญหา ทั้งนี้ภายในกมธ.ไม่มีปัญหาอะไร เพราะเราได้พูดคุยกันมาแล้ว" นายณัฐชากล่าว