สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ซึ่งมีการประชุมประจำปีที่เมืองมาราเกช ประเทศโมร็อกโก ได้มีการเปิดเผยการประมาณการเศรษฐกิจโลก ปี 2023 (พ.ศ. 2566) โดยนายปิแอร์-โอลิวิเยร์ กูรินชาส์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของไอเอ็มเอฟ ระบุว่า ทางไอเอ็มเอฟได้คงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมของโลก หรือจีดีพีของโลก ในการเติบโตขยายตัวไว้ที่ร้อยละ 3 ตามที่มีการประเมินไว้ก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์แห่งไอเอ็มเอฟ กล่าวเตือนว่า เศรษฐกิจโลกยังคงอ่อนแอ และให้จับตาสถานการณ์ความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกอย่างใกล้ชิด หลังเกิดการสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธฮามาสของปาเลสไตน์
พร้อมกันนี้ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของไอเอ็มเอฟ ยังเผยด้วยว่า ทางไอเอ็มเอฟคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกในปีหน้าจะเติบโตที่ร้อยละ 2.9 โดยมีเหตุปัจจัยมาจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์
นอกจากนี้ ไอเอ็มเอฟยังได้ออกมาเตือนว่า จากสถานการณ์ความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางข้างต้น อาจจะส่งผลทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้นอีกร้อยละ 10 จากการที่ความขัดแย้งดังกล่าวส่งผลกระทบต่อต้นทุนของราคาน้ำมัน ซึ่งหากราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นในอัตราร้อยละ 10 ก็จะกระทบต่อการขยายตัวเศรษฐกิจโลกราวร้อยละ 0.15 รวมถึงทำให้ภาวะเงินเฟ้อทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นอีกเฉลี่ยร้อยละ 0.4