วันที่ 11 ตุลาคม 2566 นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือคนไทยจากเหตุสู้รบในอิสราเอล ว่า การอพยพคนไทยออกมาเราจะต้องได้รับการอนุญาตจากอิสราเอล ถึงจะสามารถบินไปรับได้ แต่ขณะนี้ทางอิสราเอลกับกระทรวงต่างประเทศได้มีการพูดคุยกันและอนุญาตในระดับหนึ่ง โดยในวันที่ 12 ตุลาคม นี้ จะมีคนไทยกลับมาล็อตแรก 15 คน จึงจำเป็นต้องใช้เครื่องบินพาณิชย์มาตามปกติ โดยกระทรวงต่างประเทศดำเนินการในส่วนของกองทัพก็ช่วยเหลือดูแล

อย่างไรก็ตาม ในรอบต่อไปวันที่ 15 ตุลาคม นี้ กองทัพอากาศ  ก็จะบินไปรับ ซึ่งการบินไป ต้องมีการประสานกับประเทศต่างๆ รวมถึงอิสราเอล ซึ่งเขาก็ดูแลเต็มที่ เดิมทีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว. พาณิชย์ และตน จะเดินทางไปด้วย แต่มาวิเคราะห์ในหลายด้าน ควรต้องชะลอไว้ก่อน เพราะไปเป็นภาระ และเกรงว่าจะไปเป็นภาระของผู้โดยสารไปแย่งที่เขา ก็เลยทำได้แค่ไปส่งและไปรอรับ

“กองทัพอากาศคงต้องบินไปรับหลายรอบ ซึ่งวิเคราะห์กันแล้วในระดับรัฐบาลอาจมีความจำเป็นต้องผสมผสานกับเที่ยวบินเช่าเหมาลำ เพราะทางกองทัพอากาศแม้จะทำเต็มที่ แต่ยังล่าช้าไม่ทัน เพราะปัจจุบันคนแสดงความจำนงที่จะกลับ 3,000 กว่าคน” นายสุทิน กล่าว

เมื่อถามว่าในฐานะที่เป็นสส.ภาคอีสานและมีแรงงานจากภาคอีสานเป็นจำนวนมาก ในขณะเดียวกันเราก็ถูกหลายฝ่ายโจมตีว่าการช่วยเหลือล่าช้า นายสุทิน กล่าวว่า ยอมรับว่าเป็นแรงงานจากภาคอีสานจำนวนมาก และเรากังวลใจ เห็นใจและสงสาร ซึ่งการที่จะไปช่วยช้าหรือเร็ว ไม่ใช่ฝ่ายเราตัดสินใจเพียงผู้เดียว อยากให้เข้าใจว่า เราเตรียมพร้อมเครื่องบินมาหลายวันแล้ว รัฐมนตรีหลายคนพร้อมที่จะไปด้วย แต่ไปไม่ได้ ต้องเห็นใจทางการอิสราเอลเพราะเขาอยู่ในสถานการณ์สงคราม เราไปอาจจะไปสร้างความยุ่งยากทางยุทธการของเขา ซึ่งเราเข้าใจ ยืนยันว่าไม่ช้าเพราะเขาเปิดเราก็ไปทันที ในขณะเดียวกันทางผู้ช่วยทูตทหาร ก็ช่วยเคลื่อนย้าย คนไทยที่อิสราเอลไปในจุดที่ปลอดภัย

“ผมห่วงใยต่อแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ได้มีการประสานตลอด และได้รับการยืนยันว่าทุกคนปลอดภัย แต่ยังไม่ได้รับการปล่อยตัว ซึ่งเป็นหน้าที่หลักของอิสราเอลที่จะดำเนินการให้ ในส่วนของเราเองก็พยายามทำทุกทางอาศัยทุกช่องทาง ในการช่วยคนของเราให้เต็มที่” นายสุทิน กล่าว