ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2566 เวลา 20.30 น. ที่บ้านกระแชงเมืองใหม่ หมู่ที่ 17 ต.กระแชง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายสุกิจ เหลืองสกุลไทย นายอำเภอกันทรลักษ์ ได้ออกไปเยี่ยมให้กำลังใจ น.ส.วารุณี อายุ 30 ปี ภรรยาของนายพงษ์พัฒน์ อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นแรงงานไทยชาว อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สู้รบในประเทศอิสราเอล  

โดยเมื่อไปถึงพบว่า น.ส.วารุณี อยู่ในสภาพเศร้าโศกเสียใจอย่างหนัก โดยมีลูกชาย 2 คน อายุ 4 ปีและ อายุ 10 ปี พร้อมด้วยญาติพี่น้องคอยเฝ้าปลอบใจอยู่อย่างใกล้ชิด  ซึ่งนายอำเภอกันทรลักษ์ ได้เยี่ยมปลอบใจ น.ส.วารุณี และสอบถามถึงความเป็นมาของการไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลจนประสบเหตุภัยสงครามจนทำให้เสียชีวิต

 

โดยนายอำเภอกันทรลักษ์ ได้โทรศัพท์สอบถามไปยังแรงงานไทยที่ประเทศอิสราเอล ซึ่งเป็นเพื่อนทำงานร่วมกันกับ นายพงษ์พัฒน์ ที่เสียชีวิต ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุการณ์สู้รบ นายพงษ์พัฒน์ไปทำงานปลูกผักสวนเกษตรอยู่ที่ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2563 สถานที่ทำงานอยู่ทางทิศใต้ของประเทศอิสราเอล ห่างจากจุดที่มีการสู้รบที่ฉนวนกาซ่า ประมาณ 20 กิโลเมตร มีแรงงานไทยประมาณ 60 คนทำงานด้วยกัน โดยเป็นชาว อ.กันทรลักษ์ 7 คน แยกเป็นชาย 5 คน หญิง 2 คน การสู้รบกันระหว่างกลุ่มฮามาสและทหารอิสราเอล จะเป็นการใช้อาวุธยิงต่อสู้กันทางอากาศ และต่อมาวันที่ 10 ตุลาคม 2566 เวลาท้องถิ่นประมาณ 11.00 น.(ประเทศไทย เวลาประมาณ 15.00 น.) เกิดเหตุลูกระเบิดตกในที่ทำงานที่มีแรงงานไทยทำงานอยู่ ทำให้นายพงษ์พัฒน์ สุชาติ และเพื่อนแรงงานไทยเสียชีวิตรวม 2 คน และได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 คน

นายสุกิจ เหลืองสกุลไทย นายอำเภอกันทรลักษ์ กล่าวว่า ได้มาเยี่ยมปลอบขวัญ น.ส.วารุณี แรงงานไทยชาวศรีสะเกษที่เสียชีวิตจากการสู้ภัยที่ประเทศอิสราเอล ซึ่งจะได้รายงานเรื่องนี้ให้ ผวจ.ศรีสะเกษ ทราบ เพื่อจะได้ประชุมหารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องหาทางในการช่วยเหลือครอบครัวของ น.ส.วารุณี ภรรยาของนายพงษ์พัฒน์ ที่เสียชีวิตอย่างเต็มที่ต่อไป