หนุ่มชุมพรไปทำงานอิสราเอล เจอนายจ้างโกงค่าแรง ไม่ครบสัญญา 5 ปี ไม่จ่าย ต้องทนอีกปี หวังได้เงิน 4 ล้านบาทกลับไทย
นางราตรี อินน้อย อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/18 ม.5 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ชุมพร เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า นายประวิทย์ ผอบ อายุ 40 ปี น้าชาย (ขอปิดชื่อและที่อยู่ด้วย)เดินทางไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล ตั้งแต่ปี 2562 โดยสมัครไปถูกต้องตามกฎหมาย ของกรมแรงงานทุกประการ โดยน้าชายตนนั้นไปทำงานเกี่ยวกับภาคเกษตร
นางราตรี กล่าวว่า ตลอดที่หลานชายไปทำงานที่นั้น หลานชายได้โทรและบางครั้งส่งข้อความมาบอกตลอดว่า ขณะนี้ ยังไม่ได้เงินเดือนตามที่ได้ตกลงในสัญญาว่าจ้างในการทำงานที่ คฟาร์ซาวา KEFAR SAVA ของประเทศอิสราเอลตอนเหนือ อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยเลย หลานชายได้พยายามทำหนังสือไปสอบถามหลายๆฝ่ายของไทย แต่ทุกอย่างเงียบหายไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทางนายจ้าง นั้นเป็นคนใหญ่คนโต ในกองทัพ และมีนายหน้าคนไทย คอยกำกับควบคุมแรงงานไทยอีกที ซึ่งนายหน้าคนไทย มักจะเออออห่อหมกกับนายจ้างทุกประการ ก็เป็นเพราะกลัวอิทธิพล ซึ่งในแคมป์ทำงานเหมือนจะมีคนดูแลแน่นหนามาก
นางราตรี กล่าวอีกว่า หลานได้เล่าให้ฟังว่า หลานชายจำต้องกัดฟันทำงานเพื่อให้ครบสัญญาว่าจ้าง เป็นเวลา 5 ปี 3 เดือน ซึ่งขณะนี้ ผ่านไปแล้ว 4 ปี เพื่อต้องการได้เงินก้อนโต ดั่งที่หวังไว้ว่าจะนำมาสร้างบ้าน สร้างฐานะให้ดียิ่งขึ้น ไม่อยากจะให้สูญเงินก้อนโตที่คิดและคาดว่าจะได้จากการไปค้าแรงงานในต่างแดนครั้งนี้ จึงทำให้หลานชายจำต้องอยู่ในแคมป์คนงาน แม้จะกลัวสถานการณ์สู้รบกันอยู่ในขณะนี้ โดยหลานชาย ได้พูดให้ฟังบ่อยว่า อยู่ประเทศไทยฐานะความเป็นอยู่เป็นศูนย์ ไปค้าแรงก็ไม่อยากกลับมาเป็น ศูนย์เช่นเดิม
นางราตรี ยังกล่าวอีกว่า จากสถานการณ์สู้รบในครั้งนี้ หลานชายได้บอกว่า ทางนายจ้าง จะให้ทุกคน ซึ่งเป็นคนไทยกว่า 40 คน อยู่ในหลุมหลบภัยเวลามีการยิงจรวดโจมตีทางอากาศ ซึ่งล่าสุดก็ได้นำคนไทยอีก 4 คน จากแคมป์ที่อื่นมาอยู่รวมกับคนไทยที่หลานชายอยู่ ทั้งนี้ตนเองได้พยายามติดต่อกับทางหน่วยงานของรัฐเพื่อให้ช่วยเหลือหลานชายอีกทาง ไม่ว่าเรื่องเงินเดือนค่าจ้างและการอพยพหลานชายและคนไทยอีกหลายคน กลับมา เพราะตนเองและครอบครัวหลานชาย ทุกคนเป็นห่วง