แม่ปลื้ม ลูกชายทำงานอิสราเอลปลอดภัย ขอบคุณคนไทยไม่ทิ้งกัน พร้อมขอให้ลูกชายเดินทางกลับบ้านที่ขอนแก่น


เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 10 ต.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่บ้านของ นางบุญโฮม บุตโม อายุ 50 ปี ที่บ้านเลขที่ 277 ม.2 บ้านคำม่วง ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น มารดาของ นายผดุง บุตโม หรือโอโน่ อายุ 26 ปี  แรงงานคนไทย ซึ่งถูกยิงเข้าที่บั้นท้ายและบริเวณหลังรวม 2 นัดภายในแคมป์คนงานที่ประเทศอิสราเอล ภายหลังจากมีผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อvhttps://www.facebook.com/jam.vannachai.1/videos/1513188872788497/ไลฟ์สด ขณะเข้าไปพบแรงงานไทย ในรพ.ที่ประเทศอิสราเอ และ1 ในคนเจ็บเป็นแรงงานไทยที่ถูกยิงคือ นายผดุง ท่ามกลางความดีใจของคนในครอบครัวอย่างมาก


นางบุญโฮม กล่าวว่า     ช่วงคืนวันเสาร์ลูกชายทักมาบอกว่า มีการสู้รบกันใกล้กับที่พักอาศัย แต่ก็ลี้ภัยในหลุมหลบภัย  จากนั้นลูกชายก็หายไป ทักมาอีกทีตอนคืนวันอาทิตย์  บอกแม่ว่าปลอดภัยแล้ว  ซึ่งตอนที่ทักมาหาแม่ ลูกชายไม่ได้บอกว่าตัวเองถูกยิง แต่แฟนสาวของลูกชายโทรศัพท์มาแจ้งให้แม่รู้แล้ว

 

“ ตั้งแต่ทราบข่าวว่าลูกชายถูกยิง แม่กับพ่อก็กินไม่ได้ นอนไม่หลับต่างคนต่างเงียบ เพราะไม่รู้ว่าลูกเป็นอย่างไรบ้าง  กระทั่งลูกชายทักมาบอกว่าปลอดภัย ก็โล่งใจ และยิ่งมาเห็นคลิปที่คนไทยไลฟ์สด ในขณะเข้าไปหาลูกชาย ก็ยิ่งดีใจ และต้องขอบคุณน้ำใจของคนไทยรายนี้เป็นอย่างมากที่ช่วยเหลือลูกชาย และขอให้ช่วยเหลือคนไทยคนอื่นๆด้วย”

นางบุญโฮม  กล่าวต่ออีกว่า น้องโตโน่คือลูกเพียงคนเดียว ก่อนจะไปทำงานต่างประเทศ ได้หมั้นหมายกับแฟนสาว คือ น.ส.สุพัตรา อาสานอก อายุ 28 ปี หรือน้องเหมียว อยู่บ้านเลขที่ 84 บ้านโนนรัง ม.11ต.หนองสองห้อง อ.หนองสองห้อง เป็นที่เรียบร้อย จากนั้นก็เดินทางไปทำงานที่อิสราเอลเป็นเวลา 5 ปี 3 เดือน แต่ทำไปแล้ว 1 ปี 5 เดือน  เพื่อเก็บเงินสร้างฐานะ ให้กับตนเองและแฟนสาว   โดยลูกชายตั้งใจว่า เมื่อทำงานครบตามสัญญาก็จะเดินทางกลับมาแต่งงานกับแฟนสาวที่บ้าน

 

"เมื่อลูกชายทำงานแล้วประสบกับเหตุการณ์รุนแรงขึ้นในอิสราเอล แม่ก็อยากให้ลูกชายเดินทางกลับมาที่บ้าน พักรักษาร่างกายให้แข็งแรงแล้วค่อยเดินทางไปทำงานที่ประเทศอื่นก็ได้  แต่ทั้งนี้ก็คงแล้วแต่ลูกชายกับแฟนสาวจะคุยกัน  แม่พร้อมที่จะตามใจที่ลูกต้องการ  แต่ตอนนี้อยากให้ลูกชายกลับมาที่บ้านก่อน เมื่อรักษาตัวหายแล้วก็บวชเพื่อความเป็นศิริมงคลกับชีวิต จากนั้นก็จัดพิธีแต่งงานกับแฟนสาว แล้วค่อยไปทำงานอีกก็ได้ "