คืบหน้าเหยื่อสงครามอิสราเอลพ่อแม่นายคมกริช ชมบัว ยังคงเฝ้ารอข่าวลูกชาย ตัวประกันฮามาสอย่างไร้วี่แววและไม่ทราบชะตากรรม เข้าวันที่ 4 ขณะที่อีก 2 ราย บาดเจ็บอาการปลอดภัย แจ้งความประสงค์เดินทางกลับไทย พบยอดชาวสุรินทร์ไปทำงานที่ปาเลสไตล์ 418 คน
วันที่ 10 ต.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้า ของครอบครัวเหยื่อสงครามในอิสราเอล ซึ่งเป็นชาว จ.สุรินทร์ จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย 1. นายสนธยา กองสุข อยู่บ้านเลขที่ 18/1 หมู่ 6 ตำบลหนองเมธี อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ไปทำงานรับจ้างเก็บมะเขือเทศได้ 3 ปีแล้ว ถูกสะเก็ดระเบิด, 2.นายจิรายุ สุกใส อยู่บ้านเลขที่ 11 หมู่ 22 ตำบลพรมเทพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ไปทำงานในฟาร์มไก่ได้ 4 เดือน ถูกกระสุนปืนที่ทะลุตู้คอนเทนเนอร์เข้าทางด้านหลัง ขณะนี้ได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลในอิสราเอล จนอาการปลอดภัยแล้ว ทั้ง 2 ราย โดยทั้ง 2 ราย ได้ติดต่อกับครอบครัวให้ทราบว่า ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทยและได้แจ้งให้นายจ้างทราบแล้ว ขณะที่เมื่อวานนี้ วันจันทร์ที่ 9 ตุลาคม 2566 นายรองรัตน์ จงอุตส่าห์ นายอำเภอท่าตูม พร้อม ปลัดอำเภอ สาธารณสุขอำเภอ กำนันผู้ใหญ่บ้านฯ นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อสม.ได้ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจและมอบสิ่งของปลอบขวัญให้ครอบครัวแรงงานที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 รายแล้ว และจากการ ตรวจสอบข้อมูลแรงงานชาวอำเภอท่าตูม ที่เดินทางไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลเบื้องต้น มีจำนวน 98 ราย โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบ 2 ราย ตามรายชื่อข้างต้น จากจำนวนชาว จ.สุรินทร์ ที่เดินทางไปทำงานที่อิสราเอลทั้งหมดจำนวน 418 คน
ขณะที่รายที่ 3 ซึ่งยังไม่ทราบชะตากรรมเข้าวันที่ 4 คือ นายคมกริช ชมบัว อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 54 บ.อำปึล ม.3 ต.โชกเหนือ อ.ลำดวน จ.สุรินทร์ ไปทำงานก่อสร้างและรับจ้างทั่วไป โดยเมื่อเวลา 12.00 น. ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปไปยังบ้านเกิดของนายคมกริช ชมบัว เหยื่อตัวประกันฮามาส พบนายสุนันท์ ชมบัว อายุ 54 ปี และนางพรทิพย์ ชมบัว อายุ 54 ปี พ่อแม่ และ นางสาวอภัสสร จันทร์ทองแท้ อายุ 33 ปี พี่สาวของนายคมกริชฯ ยังคงเฝ้ารอคอยข่าวคราวอย่างไร้รี่แววของลูกชายเข้าวันที่ 4 แล้ว ท่ามกลางญาติพี่น้องและเพื่อนบ้าน รวมทั้งผู้นำชุมชนที่ต่างแวะเวียนมาคอยดูแลและให้กำลังใจพ่อแม่ของเหยื่อตัวประกันฮามาสตลอดทั้งวัน รวมทั้ง จนท.อสม.และ จนท.จาก รพ.สต.โชกเหนือ และจาก รพ.ลำดวน ที่ผลัดเวรกันแวะเวียนมาวัดความดันและตรวจสุขภาพร่างกายพ่อแม่ของนายคมกริชทุกวัน ซึ่งพบว่าความดันขึ้น เนื่องจากพักผ่อนไม่เพียงพอ และมีความเครียด อีกทั้งกินไม่ได้นอนไม่หลับมาหลายวัน
นายสุนันท์ ชมบัว อายุ 54 ปี พ่อของนายคมกริชฯ กล่าวว่า เข้าวันที่ 4 แล้วที่พ่อแม่เฝ้าคอยรอฟังข่าวคราวของลูกชายอย่างไร้วี่แววและไม่ทราบชะตากรรม ได้แต่ภาวนาให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองและให้ดลใจให้กลุ่มฮามาส ปล่อยตัวลูกชายและคนไทย ตนพาภรรยาเดินสายกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามสถานที่ต่างๆที่ทราบว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาหมดแล้ว ก็อดเป็นห่วงลูกชายไม่ได้ แค่ได้ทราบข่าวว่าเขายังมีชีวิตและถูกปล่อยตัวก็เป็นรางวัลใหญ่ที่สูงสุดของพ่ออแม่แล้ว ตอนนี้ทั้งพ่อแม่กินไม่ได้นอนไม่หลับมาหลายวัน งีบหลับได้นิดเดียวก็ตื่น เพราะเป็นห่วงลูกชาย ลูกชายติดต่อมาครั้งสุดท้ายก่อนวันที่จะถูกจับตัว 1 วัน เขาบอกพ่อแม่ว่า วันที่ 8 ต.ค.นี้ตังค์จะออกแล้ว หนูจะส่งตังค์ให้พ่อแม่ใช้ ปกติเขาจะโทรศัพท์กลับมาพูดคุยกับพ่อแม่ทุกวัน ก็ขอวิงวอนถึงกลุ่มฮามาสในปาเลสไตล์ กรุณาปล่อยตัวลูกชายและคนไทยรวมทั้งผู้บริสุทธิ์ด้วย และวอนรัฐบาลไทยให้ช่วยหาทางประสานงานเจรจากับกลุ่มฮามาสในปาเลสไตล์ด้วย
นางสาวอภัสสร จันทร์ทองแท้ อายุ 33 ปี พี่สาวของนายคมกริชฯ กล่าวว่า ตนเองเป็นห่วงน้องชายมาก เพราะน้องชายเป็นเสาหลักของครอบครัว หวังว่าน้องจะปลอดภัยกลับมา ฝากถึงกลุ่มฮามาส ให้ใจอ่อนปล่อยตัวน้องชายและคนไทยกลับมาบ้าน คนไทยไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ฝากรัฐบาลเจรจาให้สำเร็จ คนไทยจะได้กลับมาอย่างปลอดภัยทุกคน และเป็นห่วงพ่อแม่ด้วย ตนมาจากศรีสะเกษเพื่อมาให้กำลังใจพ่อแม่
นายอาณัติ มั่นสลาย ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านอำปึล กล่าวว่า หลายภาคส่วนก็เป็นห่วงนายคมกริชฯ ต่างเฝ้ารอคอยข่าวสารกันอย่างใจจดใจจ่อ ทั้งหมอ และ อสม.ก็มาช่วยดูแล ความดันพ่อแม่ยังสูงอยู่ พักผ่อนไม่เพียงพอ มีอาการเครียด ได้แต่ปลอบใจให้กำลังใจ ฝากถึงรัฐบาลประสานกับปาเลสไตล์โดยเร็วด้วย จะได้รู้ข่าวสารว่าลูกหลานเป็นอย่างไรบ้าง ให้เขาปล่อยตัวมาเร็วๆ คนไทยไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง