วันที่ 10 ตุลาคม 2566 ที่ประเทศบรูไน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการอพยพคนไทยจากประเทศอิสราเอลว่า ขณะนี้มี 2 ทาง คือ สายการบินพาณิชย์ ที่จะเดินทางออกมาในวันพรุ่งนี้(11 ต.ค.66) และถึงไทยวันที่12 ต.ค.66 จำนวน 11 คน ซึ่งเป็นผู้บาดเจ็บที่ต้องเร่งนำกลับมารักษา และ จากกองทัพอากาศ โดยเครื่องบินแอร์บัส A340 จะนำคนไทยเดินทางกลับมาอีก 150 คน ในวันที่ 14 ตุลาคม และถึงไทยในวันที่ 15 ตุลาคม โดย
สำหรับคนไทยที่ไม่ประสงค์เดินทางกลับจะมีมาตรการดูแลความปลอดภัย อย่างดีจากสถานทูตฯ แต่คงไม่มีใครรับประกันได้ เพราะเราไม่รู้ว่าความขัดแย้งนี้ จะลุกลามไปมากน้อยอย่างไร ตนเองจึงมองว่าเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องคิดว่ามีความเสี่ยงมากน้อยเพียงใด ทั้งนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ทางการทูตไปสมทบอีก 4 คน เพื่อประสานงานเรื่องการอพยพ
ส่วนเรื่องคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ความคืบหน้าการช่วยเหลือเป็นอย่างไรนั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง และฝ่ายการทูต ที่มีความสัมพันธ์กับบุคคลกับหลายๆรัฐบาล ก็ได้ต่อสายตรงพูดคุยกัน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของความมั่นคง จึงขอไม่เปิดเผยรายละเอียด แต่ขอให้มั่นใจว่าทุกทางที่ดำเนินการอยู่ เราพยายามทำทุกอย่างแล้ว และยังคงพยายามอย่างสูงสุด พร้อมคำนึงถึงอิสรภาพแล้ความปลอดภัยของผู้ที่ถูกจับกุมตัวเป็นสำคัญ
สำหรับข้อกังวลสิทธิการช่วยเหลือของผู้ที่เดินทางไปเป็นแรงงานไม่ถูกกฎหมาย จะดำเนินการอย่างไร เพราะหลายคนกังวลว่าจะไม่สามารถเดินทางไปทำงานได้อีก จึงไม่ประสงค์กลับไทย นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ต้องลืมเรื่องนี้ไปก่อน เพราะเรื่องความปลอดภัยของคนไทยในต่างแดนสำคัญที่สุด โดยเฉพาะเรื่องของชีวิตและความปลอดภัย ที่ขณะนี้รัฐบาลให้ความสำคัญที่สุด
ขณะที่ตัวเลขคนไทยผู้เสียชีวิต ที่ดูเหมือนว่าจะมีจำนวนมากที่สุดนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราเป็นประเทศที่สูญเสียมาก ณ เวลานี้จำนวน 18 คน ขณะที่สหรัฐอเมริกามี 9 คน จึงถือเป็นตัวเลขที่น่ากังวลใจว่าจะหยุดแค่นี้หรือไม่ ก็ต้องคอยติดตามสถานการณ์ที่อิสราเอลยึดพื้นที่คืนมา และดูว่ามีผู้หลงเหลือหรือไม่ โดยย้ำว่าเป็นเรื่องที่น่ากังวลและละเอียดอ่อนมาก ทั้งนี้ได้กำชับทางการทูตและการช่วยเหลือในทุกช่องทางและทุกวิถีทางแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตัวประกัน ผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิต หรือ แรงงานไทยและคนไทยที่อยู่ที่นั่นที่มีความประสงค์จะเดินทางกลับมาโดยเร็ว ตนเชื่อว่า รัฐบาลไทยมีความพร้อม เพราะไม่ได้เตรียมเฉพาะเครื่องบินA 340 เพียงลำเดียว แต่ยังมีเครื่องบินC130 ของกองทัพอากาศที่พร้อมให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมเครื่องบินรวมทั้งหมด 5 ลำ สำหรับอพยพคนไทย ส่วนการดูแลหลังจากนี้จะต้องดูแลให้ดีตามกฏหมาย แต่ละคนมีความเสียหายอย่างไรให้ยึดระเบียบที่วางไว้