พ่อวอน "เศรษฐา" ช่วยลูกชาย แรงงานไทยในอิสราเอล ยังไม่สามารถติดต่อได้และยังไม่รู้ชะตากรรม ขณะที่ทั้งหมู่บ้านไปทำงานที่อิสราเอล 8 คน ยังไม่รู้ชะตากรรมและติดต่อไม่ได้ 4 คน
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 10 ต.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านโคกสูง ม.6 ต.โนนธาตุ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น หลังพบว่าหมู่บ้านแห่งนี้ มีแรงงานไทยไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล จำนวนมาก โดยเมื่อเดินทางไปถึงได้พบกับบิดา มารดาของแรงงานที่ไปทำงานอยู่ประเทศอิสราเอล ซึ่งล้วนต่างไม่ทราบชะตากรรมของคนในครอบครัวและต่างต้องการให้รัฐบาลไทยช่วยเหลือด่วน
นายรำเพย กุสะรัมย์ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/1 ม.6 บ้านโคกสูง ม.6 ต.โนนธาตุ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น บิดาของสนายอภิชาต กุสะรัมย์ อายุ 29 ปี และนายพงษ์เทพ กุสะรัมย์ อายุ 26 ปี พี่และน้อง ซึ่งเป็นแรงงานไทย ที่ทำงานในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ที่ประเทศอิสราเอล ซึ่งหลังเกิดไม่สามารถติดต่อลูกชายทั้ง 2 คนได้
นายรำเพย กล่าวว่า การไปทำงานที่อิสราเอลของลูกชายนั้น คนเล็กคือ นายพงษ์เทพไปทำงานก่อน เมื่อมีรายได้ดี ได้เงินเดือนๆละ 80,000 บาท จึงชวนพี่ชาย คือนายอภิชาติ ที่ทำงานอยู่ในบริษัทรถยนต์แห่งหนึ่งไปทำงานด้วยกัน พี่ชายเห็นว่ารายได้ดี จึงลาออกจากงานไปทำงานที่อิสราเอล นอกจากนี้ยังมีชาวบ้าน ในหมู่บ้านไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลอีก 8 คน ติดต่อได้ 4 คน อีก 4 คน รวมถึงลูกชายตนเองก็ติดต่อไม่ได้
“ตั้งแต่ไปทำงานที่อิสราเอล ลูกชาย2 คนไม่เคยขาดการติดต่อกับพ่อเลย ซึ่ง ลูกชายคนโตมีครอบครัวแล้วและ มีบุตร 2 คนอยู่ที่ จ.ลำปาง ส่วนลคนเล็ก ยังโสด ทั้ง 2 ร่วมกันทำงาน เพื่อเก็บเงินซื้อรถไถนาให้พ่อ และยังไม่ครบกำหนดในสัญญาจ้างงาน จึงยังไม่ได้กลับมาได้ ซึ่งเมื่อทราบข่าวการเกิดเหตุรุนแรงขึ้นในอิสราเอล และขาดการติดต่อจากลูกชาย 2 คน ก็ทำได้เพียง จุดธูปบอกกล่าว เจ้าที่ และปู่ย่าตายาย รวมถึงบอกภรรยาที่เสียชีวิตไป ให้คุ้มครองปกป้องลูกชายด้วย และถ้าลูกชายยังปลอดภัยดี ให้หาทางติดต่อกลับมาหาพ่อด้วย เพราะพ่อเป็นห่วงลูกมาก กินไม่ได้ นอนไม่หลับ และถ้าลุกชาย 2 คนเห็นข่าวนี้ อยากจะบอกลูกว่า จะอยู่ทำงานต่อหรือจะกลับบ้านที่ประเทศไทย พ่อให้ลูกตัดสินใจเอาเลย”