ปตท.ร่วมรับภาระลดต้นทุนค่าไฟชะลอรับเงิน 8-9 พันล้าน คาดเหตุการณ์ในอิสราเอลกระทบราคาน้ำมันระยะสั้น
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า ปตท.พร้อมให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการลดค่าไฟฟ้าในช่วงเดือนก.ย.-ธ.ค.66 เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าให้แก่ประชาชนโดยในส่วนของ ปตท.คือชะลอหรือเลื่อนการรับชำระค่าเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าที่จำหน่ายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)ในงวดนี้ไปก่อนวงเงินรวม 8-9 พันล้านบาทแล้ว กฟผ.จะมาชำระในงวดถัดไป ซึ่งแม้ว่า ปตท.อาจจะมีภาระเพิ่มจากต้นทุนการเงินบ้าง แต่เป็นวงเงินไม่มากนักและหากราคาเชื้อเพลิงลดลงอีกในอนาคตค่าเชื้อเพลิงเหล่านี้ก็จะลดลงเป็นผลดีต่อประชาชน
ทั้งนี้ ครม.ประกาศลดต้นทุนค่าไฟฟ้าเรียกเก็บกับผู้ใช้ไฟฟ้ารอบเดือน ก.ย.-ธ.ค.66 ในอัตรา 4.45 บาทต่อหน่วย ลงเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วยโดยค่าไฟฟ้าเอฟทีลดจาก 0.6689 บาท/หน่วย เป็น 0.2048 บาท/หน่วย โดย กฟผ.รับภาระงดเว้นการคืนหนี้ต้นทุนค่าไฟฟ้าจากระบบงวดนี้ 2.3 หมื่นล้านบาท และ ปตท.ชะลอเรียกเก็บค่าเชื้อเพลิง 8-9 พันล้านบาท
ส่วนเรื่องที่รัฐบาลจะใช้แนวทางกฏหมายมาดูแลค่าการตลาดน้ำมันไม่ให้เกิน 2 บาท/ลิตร กลุ่ม ปตท.โดยบริษัท ปตท.นํ้ามัน และการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)หรือโออาร์พร้อมร่วมมือและให้ข้อมูลกับกระทรวงพลังงานซึ่งที่ผ่านมาค่าการตลาดของโออาร์ไม่ถึง 2 บาทต่อลิตร แต่ข้อมูลที่แตกต่างจากสำนักงานนโยบายและแผพลังงานหรือสนพ.คือค่าการตลาดสนพ.สูงกว่า 2 บาท/ลิตร เพราะฐานข้อมูลแตกต่างกันทาง สนพ.ใช้ข้อมูลอ้างอิงน้ำมันของสิงคโปร์ที่ไม่มีข้อมูลมาตรฐานยูโร 4 แต่ของโออาร์ใช้ข้อมูลยูโร 4 จากราคาหน้าโรงกลั่นฯ ซึ่งในต้นปี 2567 มาตรฐานน้ำมันไทยจะเป็นยูโร 5 การอ้างอิงราคาของผู้ค้าน้ำมันและ สนพ.จะตรงกัน
สำหรับกรณีสงครามในอิสราเอลมองว่า ไม่น่าจะส่งผลต่อปริมาณน้ำมันในโลก เพราะไม่ได้เป็นแหล่งผลิตน้ำมัน แต่อาจจะส่งผลทางด้านจิตวิทยาบ้างให้มีการปรับขึ้นประมาณ 3-4 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ล่าสุดเริ่มอ่อนตัวลงมาบ้างแล้ว โดยในส่วนของ ปตท.มองว่าหากเหตุการณ์ไม่ได้ยืดเยื้อหรือขยายวงกว้างออกไปจากที่เป็นอยู่ ถือว่าไม่น่าเป็นห่วง โดย ปตท.มีการเตรียมความพร้อมในการดูแลโครงสร้างพื้นฐานในการสำรองพลังงานให้เพียงพอต่อการใช้ในประเทศทั้งน้ำมัน และก๊าซ ดังนั้นประชาชนคนไทยไม่ต้องกังวลเรื่องพลังงาน ยืนยันว่าไทยยังมีพลังงานใช้อย่างเพียงพอ
ส่วนกรณีเลวร้ายที่สุดยังมองว่าโอกาสที่จะเกิดขึ้นไม่น่าจะสูง โดยในความเป็นจริงการที่ ปตท.มีการทำธุรกิจซื้อขายไปทั่วโลก ทำให้เข้าถึงแหล่งผลิตน้ำมันมันได้ทั่วโลก ดังนั้นหากในบางพื้นที่มีปัญหา เช่นตะวันออกกลางยังสามารถนำน้ำมันจากแหล่งอื่นมาใช้ในพื้นที่ได้อย่างเพียงพอ