กระทรวงแรงงาน รุดเยี่ยมครอบครัว หนุ่มเมืองประจวบฯ แรงงานไทยเพิ่งเดินทางไปทำงานที่อิสราเอลได้เพียง 2 เดือน แม่ยอมรับห่วงลูกชายหลังทราบข่าวสู้รบในต่างแดน
วันที่ 9 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุชาติ เปรมสุริยา ประกันสังคมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นางอาภัสรา ชุมทอง จัดหางานจังหวัด นายกฤตพล แก่นนาคำ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด นายวินัย มะยมทอง สำนักงานประกันสังคม นายศักดิ์ศรี เส้งเตง ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงาน ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ ครอบครัวของแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล โดยได้เยี่ยม นางสารภี ช้างทอง อายุ 60 ปี ที่บ้านพักใน ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งนางสารภีเป็นมารดาของ นายนราธิป ช้างทอง หรือน้องตั้ม อายุ 36 ปี แรงงานชาวไทยในประเทศอิสราเอล ซึ่งเป็นแรงงานเก็บผลไม้ โดยเพิ่งเดินทางไปทำงานได้เพียง 2 เดือน ในชุมชนเกษตรกรรมในรัฐเขตเหนือ เมือง Hazafon ประเทศอิสราเอล ห่างจากชายแดนประเทศเลบานอน 60 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากจุดปะทะสู้รบราว 200 กิโลเมตร
ทั้งนี้คณะฯ ได้พูดคุยพร้อมสอบถามสภาพความเป็นอยู่ ของนายนราธิป ผ่านแอปปลิเคชั่นไลน์ นานกว่า 10 นาที โดยนายนราธิป เล่าว่า ตนเองพักอาศัยอยู่ในโซนที่ปลอดภัย เนื่องจากที่พักอยู่ห่างจากจุดปะทะราว 200 กิโลเมตร เพียงเป็นห่วงเรื่องจรวดที่ยิงมาเป็นระยะ ๆ แม้ทางอิสราเอลยิงสกัดได้ แต่ตัวเองรู้สึกกลัว ซึ่งยังเชื่อมั่นว่าทางรัฐบาลอิสราเอลจะควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ซึ่งบริเวณที่ตนอยู่มีคนไทยอาศัยอยู่จำนวน 5 แคมป์ มีแรงงานชาวไทยร่วม 200 ราย ตนเพิ่งมาทำงานได้เพียง 2 เดือน โดยมีสัญญาการจ้างงาน 2 ปี ขณะนี้ยังยืนยันว่า จะขอทำงานอยู่ที่อิสราเอลก่อน
ขณะนี้แรงงานไทยหลายรายยังคงทำงานที่ประเทศอิสราเอล จากสัญญาการจ้างงาน 2 ปี และทราบข่าวว่า แรงงานไทยหลายราย เลือกที่จะเดินทางกลับบ้านก่อนครบกำหนดจ้างงานเพียงไม่กี่เดือน ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุปะทะกันดังกล่าว มีสูงกว่ารายงานข่าว เนื่องจากบางจุดที่มีการสู้รบ เกิดอาคารถล่มเสียหาย เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าตรวจสอบและเคลียร์พื้นที่ได้ทั้งหมด ทำให้คาดการณ์ว่า จะมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตมากกว่ารายงานข่าวก่อนหน้านี้
ด้านนางสารภี ช้างทอง อายุ 60 ปี กล่าวว่า หลังทราบข่าวการสู้รบ ยอมรับว่ามีความเป็นห่วงลูกชาย แต่ได้คุยสอบถามเหตุการณ์กับลูกทุกวันผ่านวีดีโอคอลล์ ในแอปปลิเคชั่นไลน์ ทำให้คลายความกังวลไปได้
อย่างไรก็ตาม มีรายงานข้อมูลคนงานไทยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่เดินทางไปทำงานประเทศอิสราเอล มีจำนวนรวม 6 ราย ประกอบด้วย คนพื้นที่อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ 2 ราย อำเภอทับสะแก 1 ราย อำเภอปราณบุรี 1 ราย อำเภอสามร้อยยอด 1 ราย และอำเภอบางสะพาน 1 ราย ซึ่งแรงงานทุกรายปลอดภัยดี อยู่ห่างไกลพื้นที่สู้รบ และยังไม่ประสงค์จะกลับประเทศไทย