ปัจจุบันที่โลกเข้าสู่ยุคดิจิทัลเพียงปลายนิ้วคลิกไม่กี่ครั้งบนหน้าจอมือถือ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ ก็สามารถปรับแต่งรูปร่างและหน้าตาผ่านแอปพลิเคชันให้ดูดีตรงใจคู่สนทนา แต่หากต้องการอัปเกรดความสัมพันธ์ที่จะนำมาซึ่ง “โอกาส” ในชีวิตอีกมากมาย ไม่ว่าจะในโลกออนไลน์หรือบนโลกแห่งความเป็นจริง ปฏิเสธไม่ได้ว่า “บุคลิกภาพ” ยังคงเป็นคุณสมบัติสำคัญ ที่นอกจากจะสร้างความประทับใจในแบบ Love at first sight ให้แก่ผู้พบเห็น บุคลิกที่ดีที่สุดในแบบฉบับของตัวเองอาจกลายเป็นภาพจำเชิงบวกที่ติดตัวบุคคลนั้น ๆ ไปในระยะยาวอีกด้วย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ อาจารย์ตั้ม เขมกร อภิชาติยะกุล อดีตพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินระดับ First Class และอาจารย์มหาวิทยาลัย ที่ผันตัวมาเป็นเจ้าของสถาบันพัฒนาภาพลักษณ์และบุคลิกภาพ Thailand Image Academy และปัจจุบันยังดำรงตำแหน่ง นายกสมาคมที่ปรึกษาภาพลักษณ์นานาชาติแห่งประเทศไทยหรือ AICI Thailand ซึ่งเป็นสมาคมระดับนานาชาติภายใต้ The Association of Image Consultants International (AICI) ซึ่งเป็นสมาคมที่ปรึกษาด้านภาพลักษณ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และดำเนินงานมายาวนานกว่า 30 ปี มีสมาชิกสมาคมฯ จากกว่า 80 ประเทศทั่วโลก เผยถึงเทรนด์บุคลิกภาพในยุค 5G ที่น่าสนใจ โดยบอกชัดว่าหากต้องการเดินไปถึงเส้นชัยพร้อมคว้าเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้อย่างสง่างาม บุคคลนั้นต้องมี A B C D E ในตัวเอง!
เขมกร กล่าวว่า A B C D E คือหลักพัฒนาภาพลักษณ์ 5 ประการ โดยเป็นหลักสูตรพัฒนาบุคลิกภาพระดับเอ็กซ์คลูซีฟของ Thailand Image Academy ทั้งนี้ ที่ผ่านมาหลักเกณฑ์การให้คำปรึกษาด้านภาพลักษณ์ทั่วโลก จะเน้นการพัฒนาบุคลิกภาพภายนอกใน 3 ด้าน ได้แก่ A B C โดย A หรือ Appearance หมายถึง รูปร่าง เสื้อผ้า หน้าผม การแต่งกาย ที่ปรากฏแก่สายตาของคู่ปฏิสัมพันธ์ B หรือ Behavior คือ พฤติกรรม ธรรมเนียม มารยาท เช่น การเคลื่อนไหวร่างกาย ยืน เดิน นั่ง ไหว้ และทักษะการเข้าสังคม และ C หรือ Communication คือวิธีการพูด การสื่อสารที่น่าประทับใจ ได้ผลลัพธ์ตามเป้าหมายที่ต้องการ ซึ่งการพัฒนาบุคลิกภาพที่โฟกัสเพียง 3 ด้าน A B C อาจได้ผลลัพธ์ยอดเยี่ยมในยุคที่ผ่านมา แต่เมื่อโลกแห่งความจริงและโลกเสมือนอย่างสังคมออนไลน์เชื่อมเข้าด้วยกันแทบจะแนบสนิท บวกกับประสบการณ์การสอนบุคลิกภาพให้กับองค์กรเอกชน มหาวิทยาลัย และหน่วยงานต่าง ๆ นานนับ 10 ปีของตนเอง ทำให้เห็นว่า A B C นั้นไม่เพียงพออีกต่อไป แต่ต้องแสตมป์ความน่าเชื่อถือให้แนบแน่นยิ่งขึ้นด้วยการเติม D และ E
“D คือ Digital Identity หมายถึง ภาพปรากฏของตัวเองในโลกออนไลน์หรือบนสื่อโซเชียลต่าง ๆ ซึ่งควรนำเสนออย่างเหมาะสม ไม่หลอกลวง ไม่ปลอม ไม่บิดเบือน อาจไม่จำเป็นต้องนำเสนอตัวตนทั้งหมดบนสื่อโซเชียล แต่ให้เลือกนำเสนอเพียงบางเรื่องบางมุมของตัวเอง ที่ส่งเสริมและสอดคล้องกับเป้าหมายตามที่ตั้งใจไว้ เนื่องจากข้อมูลในโลกออนไลน์ที่ปรากฏจะส่งผลต่อเนื่องไปยังการรับรู้ในโลกแห่งความจริง นับเป็นต้นทุนด้านภาพลักษณ์เชิงบวกที่ไม่ต้องใช้การลงทุนที่มากนัก ส่วน E คือ Energy & Mindset ตรงนี้สำคัญ เนื่องจากส่วนตัวเชื่อว่าหากต้องการเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพให้ดีขึ้นต้องเริ่มจากภายในทั้งวิธีคิดและจิตใจ เพราะสิ่งเหล่านี้จะสะท้อนเป็นบุคลิกภาพภายนอกของเรา บางคนภาพรวมดูดี สวย หล่อ สมาร์ท แต่พอมีพลังงานลบหรือวิธีคิดลบเสน่ห์ก็เลือนหายไป ภาพลักษณ์กลับกลายเป็นไม่ดีดูไม่น่ารักอย่างที่ควรจะเป็น นอกจากนี้ ยังเสริมความรู้ในมิติของความยั่งยืน และประเด็นทางสิ่งแวดล้อม เช่น ภาวะโลกรวนโลกร้อนเข้าไปในหลักสูตร เพื่อให้การปรับแต่งบุคลิกภาพเดินหน้าไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงที่จะไม่ทำร้ายโลกและยั่งยืน ทั้งหมดนี้จึงสามารถกล่าวได้ว่าศาสตร์ที่ปรึกษาด้านภาพลักษณ์ในยุคดิจิทัลเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนและลึกซึ้งมากกว่าที่หลาย ๆ คนเข้าใจ” เจ้าของสถาบัน Thailand Image Academy อธิบายเพิ่ม
สำหรับใครที่ต้องการพัฒนาตัวเอง ปรับบุคลิกให้ดูดีในยุค 5G หรือต้องการเรียนเพื่อไปประกอบวิชาชีพด้านภาพลักษณ์ เขมกร ให้ความรู้เพิ่มเติมว่า ควรเลือกเรียนกับอาจารย์หรือสถาบันที่ได้รับการรับรองในระดับสากล เพราะเนื้อหาการเรียนการสอนจะมีครบทั้งด้านวิชาการ ประสบการณ์ และองค์ประกอบอื่น ๆ ที่จะสามารถนำไปอ้างอิง หรือต่อยอดทางการงานได้ดีกว่า
“เมื่อต้นปี 2566 ที่ผ่านมา ผมผ่านการรับรองการเป็นที่ปรึกษาภาพลักษณ์ ระดับ CIC หรือ Certified Image Consultant จากสมาคมที่ปรึกษาภาพลักษณ์นานาชาติ AICI ในงาน Global Conference 2023 ที่สาธารณรัฐโดมินิกัน โดยถือเป็นที่ปรึกษาภาพลักษณ์คนแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองในระดับสากลจากสมาคมดังกล่าว ซึ่งความเชี่ยวชาญในระดับ CIC นี้อุปมาได้กับวุฒิปริญญาตรีในระบบการศึกษา โดยมีระดับขั้นที่สูงขึ้นคือ CIP และ CIM ที่เสมือนเป็นปริญญาโทและปริญญาเอกของวิชาชีพนี้เลยทีเดียว ปัจจุบันผมกำลังมุ่งมั่นให้ผ่านการรับรองในระดับ CIP (Certified Image Professional) เพื่อยกระดับ Thailand Image Academy ให้เป็นสถาบันพัฒนาด้านภาพลักษณ์และบุคลิกภาพแห่งแรกของไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากลเทียบชั้นนานาชาติ เพราะนั่นหมายถึงจำนวนบุคลากรคุณภาพของประเทศที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต ยิ่งประเทศไทยเป็นประเทศขึ้นชื่อในเรื่องการให้บริการระดับลักชัวรี ภาพลักษณ์หรือบุคลิกภาพที่ดีจึงเปรียบได้กับอาวุธสำคัญ” เขมกร ระบุ