หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ยืนหยัดฟันฝ่า ทุกอุปสรรค ทุ่มเท ทำงานเพื่อรับใช้สังคม นำเสนอความจริง ผลงานก้าวสู่ปีที่ 74 เป็นเครื่องพิสูจน์ ...*...
ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์ จากเหตุการณ์กลุ่มฮามาสโจมตีประเทศอิสราเอล ตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ที่ 7 ต.ค.66 ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น กันอย่างต่อเนื่อง จากเหตุครั้งนี้ส่งผลให้ “พี่น้องแรงงานไทย” ได้รับผลกระทบ โดย “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กำลังอยู่ในระหว่างการเยือน เขตบริหารพิเศษฮ่องกง ตามคำเชิญของผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ในวันที่ 8 ต.ค. ได้เปิดเผยว่า จากได้รับรายงาน จาก “พรรณภา จันทรารมย์” เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ พบมีคนไทยเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 คน รวมเป็น 2 คน ...*...
ในวันเดียวกัน “ปานปรีย์ พหิทธานุกร” รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ แถลงความคืบหน้า ในเวลา 12.00 น.โดยระบุว่า แรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบ ตามที่สถานทูตกับฝ่ายแรงงานประจำสถานทูตประสานงาน เปิดเผยว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 คน โดยรอการช่วยเหลือจากกองทัพ 3 คน และเข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลโซโรกาแล้ว 5 คน เสียชีวิต 1 คน ถูกจับไป 11 คน ทางสถานทูตได้พยายามติดต่อกับทางการอิสราเอลเพื่อประสานยืนยันข้อมูล ...*...
ทางด้าน “กองทัพอากาศ” โดย “พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล” ผู้บัญชาการทหารอากาศ สั่งการให้กองทัพอากาศเตรียมความพร้อมปฏิบัติภารกิจอพยพคนไทย ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยเกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมการ และหาหนทางปฏิบัติกรณีอพยพคนไทยกลับประเทศ ซึ่งเบื้องต้นกองทัพอากาศได้เตรียมเครื่องบินแบบ Airbus A340-500 และเครื่องบินแบบ C-130 ซึ่งพร้อมปฏิบัติภารกิจอพยพคนไทยในอิสราเอลทันทีเมื่อรัฐบาลสั่งการและน่านฟ้าเปิด ...*...
ปัญหา “นอกประเทศ” ที่มี “แรงงานไทย” ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์การสู้รบที่ประเทศอิสราเอล ทั้งรัฐบาลไทยและพี่น้องชาวไทยยังเฝ้าติดตามด้วยความเป็นห่วงและวิตกกังวล ขณะเดียวกัน สถานการณ์ “ในประเทศ” ที่ “นายกฯเศรษฐา” กำลังเผชิญซึ่งถือว่าหนักหน่วง ด้วยกันในหลายมิติ เมื่อ “นโยบายหลัก” ของ “พรรคเพื่อไทย” และรัฐบาล อย่าง “แจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท” ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เมื่อมีเสียงคัดค้านดังมาจาก “นักเศรษฐศาสตร์” ร่วมกันลงชื่อมากกว่า 100 คนในแถลงการณ์ที่ระบุชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าว ...*...
ด้วยแห็นว่า “ได้ไม่คุ้มเสีย” พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาล “ยกเลิก” โดยยก 7 เหตุผลประกอบในการคัดค้าน และที่น่าสนใจ เมื่อ ในรายชื่อทั้งหมดปรากฏ “2อดีตผู้ว่าการแบงก์ชาติ” ทั้ง “ วิรไท สันติประภพ” และ “ธาริษา วัฒนเกส” ร่วมด้วย ยิ่งทำให้แถลงการณ์ฉบับดังกล่าว ถูกจับตามากขึ้น ว่าที่สุดแล้ว “นายกฯเศรษฐา” จะเอาอย่างไร เพราะคนที่คัดค้าน ไม่ใช่ “ฝ่ายการเมือง" หากแต่เป็น “อดีตผู้ว่าการแบงก์ชาติ” ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ...*...
ปรากฏว่า “นายกฯเศรษฐา” ส่งสัญญาณกลับมา ชัดเจนเช่นกันว่า “ไม่ยกเลิก” และย้ำว่ามีประชาชนหลายพื้นที่ต้องการโครงการนี้ ยืนยันว่า ไม่ใช่โครงการหาเสียง ไม่ใช่โครงการที่มาโปรยเงินให้ประชาชนเลือกตั้งให้เรากลับมาใหม่ แต่เป็นโครงการที่ตระหนักถึงความจำเป็นและความต้องการของประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรม ...*...
ประเด็นเรื่องการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท จะกลายเป็น “ระเบิดเวลา” ที่รอให้ “พรรคเพื่อไทย” กู้สถานการณ์ หรือจะกลายเป็น “ระเบิดพลีชีพ” พากันพังทั้งครม. ต้องยอมรับว่า ประเด็นนี้น่ากังวลมากกว่า ปัญหาการเมืองเสียแล้ว ! ...*...
ที่มา:พันแสง (09/10/66)