วันที่ 8 ต.ค.66 เวลา 03.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ร.ต.อ.ฐานิต ที่ภักดี รอง.สว.(สอบสวน) สภ.สัตหีบ ขณะที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก ได้มี จ่าเอก เฉลิมพล เปาเล้ง อายุ 46 ปี ทหารเรือสังกัดหนึ่งฐานทัพเรือสัตหีบ และ นายอินทรี ธรบดิณชา อายุ 37 ปี ได้เดินทาง นำอาวุธปืนสั้น แบบกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ บราวนิ่ง ขนาด 9 มม. พร้อมกระสุนบรรจุอยู่ในแม็กกาซีนเต็มแม็ก โดยอาวุธปืนยังอยู่ในสภาพนกสับเหนี่ยวไกปืนยังง้างอยู่ มาส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยระบุว่า ได้แย่งอาวุธปืนมาจากกลุ่มชายฉกรรจ์ ที่พยายามจะก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้อื่น บริเวณหน้าร้านอาหาร สไตล์ยุค 90 ริมถนนสุขุมวิท หมู่ 3 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงนำมามอบให้กับตำรวจ พร้อมทั้งประสงค์แจ้งความเอาผิดกับเจ้าหน้าของอาวุธ ในข้อหาทำร้ายร่างกาย
จ่าเอก เฉลิมพล เปาเล้ง เล่าว่า ช่วงเวลาประมาณเกือบตี 2 ขณะที่ ตนเอง กับ นายอินทรี กำลังยืนอยู่หน้าร้านอาหารดังกล่าว ได้เห็นชายฉกรรจ์ 2 คน กำลังช่วยกันรุมชกต่อย ชายไทย อายุประมาณ 30 ปี ตนเองเห็นท่าไม่ดี ด้วยความหวังดีจึงจะเข้าไปห้าม แต่ปรากฎว่า 1 ในชายฉกรรจ์ที่ก่อเหตุ รูปร่างลักษณะอ้วนท้วม เกิดความไม่พอใจ หันมาต่อว่า ลักษณะไม่ให้เข้าไปยุ่ง พร้อมทั้งเดินกลับไปที่รถ แล้วหยิบอาวุธปืนออกมาข่มขู่
พอพูดไม่ทันขาดคำ ชายดังกล่าวได้ลั่นไกใส่ตน 1 นัด แต่กระสุนยิงไม่ออก ชายดังกล่าวพยายามจะขึ้นลำกล้องและจ่อสับกระสุนจ่อยิงอีกครั้ง แต่ นายอินทรี น้องที่มาด้วยกัน กระโดดเข้าแย่งปืน และ ถูกอาวุธปืนฟาดเข้าที่ข้อมือจนได้รับบาดเจ็บ พอแย่งปืนสำเร็จ จึงทำให้ตนกับเจ้าของปืนเกิดการชกต่อยกันขึ้น หลังจากนั้นก็พอกันแยกย้าย ส่วนตนก็ได้เดินทางมาโรงพัก เพื่อส่งมอบอาวุธปืนให้กับตำรวจ พร้อมทั้งแจ้งความเอาผิดกับเจ้าของปืนรายนี้
เบื้องต้นทราบว่า ผู้ที่ใช้อาวุธปืนพยายามก่อเหตุดังกล่าว ถูกรุมทำร้าย ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัว ส่ง โรงพยาบาล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ทราบชื่อว่า นายเดชา อายุ 38 ปี ส่วนอีกคนที่มาเดียวกัน ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บด้วยเช่นกัน ชื่อว่า นายราชัญ อายุ 51 ปี โดยตำรวจ ยังได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ โดยจะเชิญตัวมาสอบปากคำ หลังจากออกจากโรงพยาบาล แต่หากไม่มา ตำรวจจะออกหมายเรียก ถ้าเกิน 3 ครั้ง ตำรวจจึงออกหมายจับทันที
ขณะเดียวกันระหว่างที่คนเจ็บทั้ง 2 คน ถูกรักษาตัวอยู่ในห้อง ฉุกเฉิน รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ มีชายไทย ลักษณะแต่งตัวภูมิฐาน อ้างว่า เป็นนักการเมืองท้องถิ่น ใน อ.สัตหีบ เข้ามาโวยวายเสียงดังลั่น ในห้องฉุนเฉิน โดยแสดงอาการไม่พอใจตลอดเวลา จึงทำให้เกิดความสงสัยว่า ว่าผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 คน เป็นอะไรชายดังกล่าว ถึงขั้นเกิดความไม่พอใจ โวยวายลั่นโรงพยาบาล